กลายเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับคนในครอบครัวอย่างมาก หลังจากที่คุณลุงชาวบุรีรัมย์ยังทำใจไม่ได้ ที่ภรรยาของตนเองป่วยมะเร็งเสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีก่อน จึงตัดสินใจผูกคอตัวเองกับกลอนประตูต่อหน้ารูปถ่ายและโกศบรรจุกระดูกของภรรยา
โดยทางด้านร.ต.อ.สำรวย อบกลาง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนางรอง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
บริเวณที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวตั้งอยู่ถนนประดิฐษ์ปานะ ต.นางรอง อ.นางรอง พบศพของนายแสง อายุ 57 ปี ผู้ที่ผูกคอตายซึ่งญาติได้ตัดเชือกรองเท้าออกแล้วนำร่างวางไว้กับพื้น จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย มีเพียงรอยเขียวช้ำที่บริเวณลำคอ คาดว่าน่าจะเป็นรอยเชือกที่ใช้ผูกคอตัวเองกับกลอนประตูหน้าบ้าน
ทั้งนี้ยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือ 1 ฉบับ วางไว้บริเวณหน้ารูปถ่ายและโกศบรรจุกระดูกของภรรยาผู้ตาย โดยในจดหมาย “มีรอยใช้ปากกาขีดเป็นเส้นคล้ายกับนับอะไรบางอย่าง และมีข้อความที่เขียนด้วยลากมือว่า “วันที่ 11 เม.ย.63 พ่อลาก่อน” จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายนัฐพงศ์ อายุ 31 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงค่ำทุกคนในบ้านรวมถึงพ่อด้วย ก็ได้พากันไปงานศพของคนในหมู่บ้าน แต่พ่อกลับมาบ้านก่อน จากนั้น น.ส.ปนัดดาหลานสาวกลับมาถึงบ้านก็แทบช็อก เมื่อเห็นนายแสง ใช้เชือกรองเท้าสีดำผูกคอตายกับกลอนประตูหน้าบ้าน โดยลักษณะการผูกพ่อหันหน้าไปทางรูปถ่ายและโกศบรรจุกระดูกแม่ เหมือนกับจะอยากบอกให้แม่รับรู้ถึงความรู้สึกที่พ่อมีให้กับแม่ จากนั้นน.ส.ปนัดดา ผู้เป็นหลานก็วิ่งไปบอกตนเองและญาติพี่น้องคนอื่นให้มาดู พอมาถึงลุงก็ใช้มีดตัดเชือกออกและช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่มีสัญญาณชีพพบว่าพ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนสาเหตุที่พ่อคิดสั้นผูกคอเสียชีวิต ก็น่าจะยังทำใจไม่ได้ที่แม่เสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีก่อนด้วยโรคมะเร็ง เพราะหลังจากแม่เสียชีวิตพ่อก็จะบ่นคิดถึงแม่เกือบทุกวัน ทั้งยังบอกกับตนเองหลายครั้งว่ารักแม่มาก ประกอบกับวันนี้พ่อดื่มเหล้าด้วยจึงทำให้ตัดสินใจคิดสั้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเสียใจให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก