ADB มองเอเชียยังเหนื่อย ทั่วโลกเศรษฐกิจหดตัว กำลังซื้อลดส่งผลต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว

0

ตัวเลขคาดการณ์ของเอดีบี บอกสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกว่า ยังยากที่จะฟื้นกลับคืนสู่ความปกติ เพราะกำลังซื้อของลูกค้ารายใหญ่ของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชีย ที่คาดหวังการค้าขาย

การส่งออกและการท่องเที่ยว จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้แม้จะยังคงต้องเผชิญปัญหาการระบาดโควิดุ19 อยู่ อาจไม่เป็นไปตามคาด โดยเฉพาะประเทศที่เน้นการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก ประเทศไทยเราตั้งรับหรือรุกในภาวะเช่นนี้

ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี รายงานว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะเติบโตไม่มากนักในปี 2563 เนื่องจากมาตรการควบคุมต่างๆ การล็อคดาวน์ประเทศ  เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลให้เกิดการชะลอกิจกรรมทางเศรษฐกิจและทำให้ความต้องการจากภายนอกลดลงทั่วโลก

โดยในรายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย (Asian Development Outlook: ADO) ฉบับเพิ่มเติมล่าสุด (Supplement) เผยแพร่ในวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ระบุว่า ในปี 2563 ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจะเติบโตเพียง 0.1% ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.2% ในเดือนเมษายน และตัวเลขนี้คาดว่าจะเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดสำหรับภูมิภาคตั้งแต่ปี 2504

สำหรับการเติบโตในปี 2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.2% สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะหดตัวที่ 2.7% ในปีนี้ ก่อนที่จะกลับมาเติบโต 5.2% ในปี 2564 โดยการหดตัวดังกล่าวเกิดจากประเทศเศรษฐกิจหลักในอนุภูมิภาคได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมโรคระบาดซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศ

สำหรับไทยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวที่ 6.5% ซึ่งหดตัวเพิ่มมากขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4.8% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากการบริโภคและการลงทุนที่ลดต่ำอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 กอรปกับแนวโน้มอุปทานภายนอกที่อ่อนแอส่งผลให้การส่งออกสินค้าและบริการลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม การเติบโตของไทยคาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นที่ 3.5% ในปี 2564 จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.5% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในปี 2563 ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจะเติบโตเพียง 0.1% (ตารางที่ 1) ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.2% ในเดือนเมษายน และตัวเลขนี้คาดว่าจะเป็นการเติบโตที่ช้ที่สุดสำหรับภูมิภาคตั้งแต่ปี 2504 สำหรับการเติบโตในปี 2564 คาคว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.2% เช่นที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) คาดว่าจะยังคงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้และต่ำกว่าแนวโน้มก่อนเกิดวิกฤติ

นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอดีบี กล่าวว่า ในขณะที่เอดีบีเห็นแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นสำหรับภูมิภาคในปี 2564 แต่นั่นเป็นเพราะตัวเลขที่อ่อนแอในปีนี้และจะไม่ใช่การฟื้นตัวในรูปแบบตัววี (V-shaped recovery) รัฐบาลควรดำเนินมาตรการเชิงนโยบายเพื่อลดผลกระทบเชิงลบของ COVID-19 และทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดของโรคระลอกใหม่

แนวโน้มทางเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยขาลงจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ที่อาจเกิดขึ้นหลายระลอกในช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึง บวกกับหนี้ฐบาลและวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ยังมีความเสียงจากการเพิ่มระดับความตึงเครียดทางการคำที่เกิดขึ้นใหม่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนอีกด้วย

Cr: ADB.org