(1) 11 ก.พ.63 ปิยบุตร แสงกนกกุล แถลงคดีกู้ยืมเงินพรรคอนาคตใหม่ ที่จะตัดสิน 21 ก.พ. โดยได้ยื่นค้านคำสั่งที่ให้จัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงภายใน12 ก.พ. ทั้งต้องการให้ศาลเปิดไต่สวนพยาน 17 ราย
(2) 12 ก.พ.63 มีรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่รับคำร้องของพรรคอนาคตใหม่ กรณีขอให้เปิดไต่สวนพยาน แต่ขยายยื่นคำให้การพยาน 17 ปาก ไป17 ก.พ. แต่ยังนัดวินิจฉัยคดี 21 ก.พ. เช่นเดิม
(3) 12 ก.พ.วันเดียวกัน กกต.ยืนยันแม้ชั้นพิจารณาคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน อนุกรรมการฯให้ยกคำร้อง แต่อำนาจวินิจฉัยเป็นของกกต. และได้ยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
(4) 13 ก.พ. 63 น.ส.พรรณิการ์ วานิช แถลงศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดไต่สวน แต่ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งคำชี้แจงพยาน 17 ปากไปให้ จะส่งผลให้การพิจารณาคดีนี้เป็นธรรมหรือไม่
(5) น.ส.พรรณิการ์ หรือ ช่อ ยังกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ตั้งข้อสงสัย 2 ประการ คือ
(5.1) พยาน 17 ปาก มี 4 คน ที่เป็นพยานนำ ซึ่งสามารถทำคำชี้แจงได้ แต่อีก 13 เป็นพยานหมาย เป็นเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ กกต. เราไม่สามารถไปทำคำชี้แจงเองได้ จึงต้องขอใช้อำนาจศาลเรียกไต่สวน แต่ศาลกลับปฏิเสธไม่ทำตาม
(5.2) ต่อให้พรรคอนาคตใหม่ทำคำชี้แจงพยานครบ 17 คน แล้วส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 17 ก.พ. ศาลจะใช้เวลาพิจารณา และตัดสินคดีได้อย่างถูกต้องเที่ยงธรรมภายใน 21 ก.พ.
(6) “เนื่องจากไม่มีการเลื่อนพิจารณาคดี เลื่อนออกคำวินิจฉัย สาธารณชนย่อมตั้งข้อสงสัยว่า คำชี้แจงพยาน17 ปาก เพียงไม่กี่วันก่อนถึงวันพิพากษา คำชี้แจงจะได้รับการพิจารณาอย่างถ่องแท้หรือไม่” โฆษกอนค. ระบุ
(7) 14 ก.พ.63 ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก อธิบายข้อกฏหมายพร้อมเตือนถึงโฆษกอนาคตใหม่ ว่า…
(7.1) การพิจารณาคดีพรรคอนาคตใหม่ประเด็นข้อเท็จจริงที่ว่า พรรคกู้ยืมเงินธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จริงหรือไม่นั้น ฟังได้ยุติแล้วเพราะธนาธร และกรรมการบริหารพรรคต่างยอมรับกันแล้วว่าเป็นความจริง
(7.2) ที่พรรคอนาคตใหม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยานอีก 17 ปาก จะให้ไต่สวนประเด็นอะไร แม้จะไต่สวนพยานทั้ง 17 ปาก หรือ 50 ปาก หรือ 100 ปาก เพื่อให้พยานให้การว่า ไม่ได้กู้ยืมเงินธนาธรก็ไม่อาจลบล้างคำให้การนายธนาธรที่เป็นเจ้าของเงินได้
(7.3) ส่วนประเด็นข้อกฎหมาย การที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินธนาธรเป็นการฝ่าฝืน พรป.พรรคการเมือง มาตรา 62 และมาตรา 66 หรือไม่ และเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 72 และมาตรา 92 หรือไม่
(7.4) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยตามที่กฎหมายและรัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องความเห็นของบุคคลใดๆ
(7.5) การที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่เรียกร้องศาลรัฐธรรมนูญจะให้ทำการไต่สวนพยานเพื่อให้ความเห็นทางกฎหมายของบุคคลเหล่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลที่จะนำมาอ้างได้เลย
(7.6) ประมวลกฎหมายอาญามมาตรา 198 บัญญัติว่า ผู้ใดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดีหรือ กระทําการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(7.7) โฆษกพรรคอนาคตใหม่ควรจะอ่านบ้าง เพราะถ้ามีผู้ไปแจ้งความกล่าวหาว่าดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญจะได้รู้ว่ามีโทษมากน้อยเพียงใด
(8) นั่นคือข้อเท็จจริงทางกฎหมายที่ชัดเจนยิ่ง ถึงสาเหตุที่ศาลตีตกคำร้องไม่เปิดไต่สวนพยานตามที่อนาคตใหม่ร้องขอ!?! อีกทั้งยังมีเสียงเตือนถึงช่อ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการหมิ่นศาล??? งานนี้ดูท่าว่า ยิ่งใกล้วันยิ่งดิ้นเหมือนยิ่งเจ็บ!?!
#ปอกเปลือก#ปอกให้เห็นความจริง