11 เรื่องควรรู้ ก่อนที่จะฟังศาลวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่รับเงินกู้ธนาธร

0

11​ เรื่องควรรู้​ ก่อนที่จะฟังศาล​วินิจฉัย​คดียุบพรรคอนาคตใหม่รับเงินกู้ธนาธร​

.

 ดร.เวทิน​ ชาติกุล​ สถาบันทิศทางไทย

.

1.​ ศาลรธน.จะวินิจฉัยตามคำร้องของ​ กกต.

ศาลไม่ได้ตัดสินตามใจศาล​ แต่ตัดสินตามคำร้องของผู้ร้องซึ่งในที่นี้คือ​ กกต.​ โดยพิจารณาตามข้อเท็จจริง​ และข้อกฎหมาย

.

2.​ คำร้องของ​ กกต.​ ร้องว่าอะไร?

(11 ธ.ค. 62)​ กกต.มีมติพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากธนาธร 191,200,000 บาท เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 72แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

.

จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

.

3.​ คำร้องของ​ กกต.​ แปลว่า?

3.1​ พรรคอนาคตใหม่​ กู้ยืมเงินจาก​ ธนาธร​ 191​ ล้าน

3.2​ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด​ ม.72​ (ตาม​ พรป.ประกอบ​ รธน.​ ว่าด้วยพรรคการเมือง​ 2560)

3.3​ กกต.จึงยื่นคำร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่​ ตาม​ มาตรา​ 92  วรรค​ 1​ (3) และ​ มาตรา​ 93

.

4.​ มาตรา​ 72​ เขียนไว้ว่าอย่างไร

มาตรา 72

ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

.

5.​ มาตรา​ 72​ แปลว่า​

5.1​ บอกว่า​ พรรคการเมือง​ ห้ามรับ สิ่งต่อไปนี้​ (ไม่ได้บอกว่า​ใคร​จะให้กู้ได้หรือไม่ได้)​

5.2​ สิ่งที่ห้ามรับ​ ก็คือ​

5.2.1 เงินบริจาค​

5.2.2 ทรัพย์สิน

5.2.3 ประโยชน์อื่นใด

5.3​ โดยรู้ หรือ​ ควรรู้​ ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกม.​ หรือ​ มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย

.

6.​ ข้อเท็จจริงคือ

6.1  พรรคอนาคตใหม่รับเงิน​ ธนาธร​ มาแล้ว​ (โดยระบุว่าเป็นเงินกู้)​ ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว​ ศาลจึงไม่สั่งให้มีการไต่สวนเพิ่มเติม​ จึงเหลือเพียงการพิจารณาว่า​มีความผิดตามข้อกฎหมายหรือไม่?

.

7.​ ข้อกฎหมายที่ศาลน่าจะวินิจฉัยคือ​

7.1  เงิน​ ธนาธร​ ที่พรรครับมา​ เข้าข่ายสิ่งที่ห้ามรับหรือไม่​ ตาม​ ม.72?

7.1.1 เงินที่พรรครับมาอยู่ในประเภทหนึ่งของรายได้พรรคการเมืองที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่​

7.1.2  ตามมาตรา​ 62​ นั้น​ เงินที่รับมานี้​ไม่อยู่ในประเภทหนึ่งของรายได้พรรคการเมืองที่กฎหมายกำหนด​ (และตามกฎหมายมหาชน​ ต้องตีความตามตัวบท​ สิ่งที่ทำได้คือสิ่งที่กำหนดไว้​ เท่านั้น)​

7.1.3 เงินที่ไม่อยู่ในประเภทหนึ่งประเภทใดของรายได้พรรคตามกฎหมาย​ที่พรรคอนาคตใหม่รับมานี้ถือว่า​ “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ตามมาตรา​ 72​ หรือไม่?

.

7.2  เงินที่พรรครับมา​ รู้​ หรือ​ ควรรู้​ ว่า​ ได้มาโดยไม่ชอบด้วย กม.​ หรือ​ มีที่มาโดยผิดกม.หรือไม่?

7.2.1 มาตรา​ 66​ วรรคสอง​ “พรรคการเมืองจะรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกินวรรคหนึ่งมิได้” = ห้ามพรรคการเมืองรับเงิน​จากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง​เกิน​ 10​ ล้านบาท/ปี​

7.2.2 เงินที่พรรคอนาคตใหม่รับมาจากธนาธร​ 191​ ล้าน​ เกิน​ 10​ ล้านบาท/ปี

7.2.3 เงินที่รับมานี้จะถือว่า​”ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ตาม​ มาตรา​ 72​ หรือไม่? (แม้จะอ้างว่าไม่ใช่เงินที่มีที่มาผิด​กฎหมายก็ตาม)​

.

8.​ ถ้าวินิจฉัยว่า​ ผิด​ จะวินิจฉัยต่อว่า​ มีโทษ​ยุบพรรคตามมาตรา​ 92 วรรค1​ (3) หรือไม่​

.

9.​ ความเป็นไปได้​ ก็คือ​

9.1 วินิจฉัยว่า​ ไม่ผิด​ และ​ ไม่ยุบพรรค

9.2  วินิจฉัยว่า​ ผิด​ และ​ ยุบพรรค

9.3 วินิจฉัยว่า​ ผิด​ แต่​ ไม่ยุบพรรค​ แต่อาจตัดสิทธิ์​กก.บห.ของพรรค

.

10.​ เอกสาร​หลุด​ ความเห็นทางกม.อื่น​ๆ​ ศาลจะฟังหรือไม่ฟังก็ได้​ เพราะอำนาจการวินิจฉัยข้อกม.ของศาล​อยู่ที่ศาลอยู่แล้ว

.

11.​ ประเด็นของรูปคดีนี้ไม่ใช่​ ธนาธร​ “ให้พรรคกู้เงินได้” หรือไม่ได้? ผิดหรือไม่ผิด? (นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องไปว่ากันอีกคดี)​ แต่คือ​ พรรคอนาคตใหม่​หรือกรรมการบริหารพรรค “รับเงิน” ของธนาธร​ (ไม่ว่าจะเรียกว่าเงินอะไรก็ตาม)​ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้​ จะมีความผิดหรือไม่? และมีความผิดขนาดไหน?

.

(หมายเหตุ)​ คดีนี้​ใช้เวลาสืบเนื่องมายาวนานร่วม​ 9​ เดือน​ ตั้งแต่​ ศรีสุวรรณ​ ไปยื่น​ 21​ พ.ค.2562​  กกต.มีมติ​ 11​ ธ.ค.​ 2562​ ยื่นศาล​ 13​ ธ.ค.​ 2562​  และศาลนัดอ่านคำวินิจฉัย​ 21​ ก.พ.​2563​ ที่พรรคอนาคตใหม่​ ธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร​ แสงกนกกุล บอกว่า​ “มีธง” ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงทำไมต้องปล่อยให้การพิจารณากินเวลายาวนานถึง​ 9​ เดือน​ซึ่ง​ กกต.ถูกวิจารณ์ว่าพยายามดึงเรื่องถ่วงเวลาให้ล่าช้าด้วยซ้ำ​ จนมีนักกฎหมายหลายคนต้องออกมากระทุ้งผ่านโซเซียลมีเดีย​ เรื่องจึงเดินต่อได้​