จากที่มีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยในคดีฆาตรกรรม นายชูวงษ์ แซ่ตั้ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง ได้วางแผนหลบหนีออกจากเรือนจำ แต่ถูกจับได้เสียก่อนจนเกิดกระแสว่าจริงหรือไม่นั้น
ต่อมาพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวพ.ต.ท.บรรยิน วางแผนแหกคุกและพยายามฆ่าตัวตายภายในเรือนจำ ว่าได้รับเบาะแสจริงมาจากผู้ต้องหา 2 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือให้ประกันตัวออกมา ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ต่อชุดสืบสวน และได้นำข้อมูลส่วนนี้ไปหารือกับคณะพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว เบื้องต้นได้พิจารณาเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
“เรื่องการเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ประสานงานกับทางกรมราชทัณฑ์ ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้ชุดหนุมานกองปราบปราม เตรียมกำลังพร้อมสนับสนุนหากต้องมีการคุมตัวพ.ต.ท.บรรยิน ไปขึ้นศาลทุกครั้ง พร้อมกับประสานตำรวจศาล ดูแลเป็นกรณีพิเศษด้วย” พล.ต.ต.จิรภพ กล่าว
ล่าสุดวันนี้(20มิ.ย.63) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม(รอง ผบก.ป.) เปิดเผยด้วยว่า กรณีที่เกิดขึ้น นายโจและนายท็อป ถือว่าเป็นผู้ที่ถูก พ.ต.ท.บรรยิน ใช้ให้ไปเตรียมก่อเหตุชิงตัวออกจากเรือนจำ ส่วนพ.ต.ท.บรรยิน ถือเป็นผู้ใช้ จ้างวาน หรือสนับสนุนให้ผู้อื่นให้กระทำผิดตามที่ระบุในมาตรา 87 ของประมวลกฎหมายอาญา มีอัตราโทษ 1 ใน 3 ของความผิดที่ก่อขึ้น
“หากแผนการชิงตัวเกิดขึ้นจริง นายโจ และนายท็อป จะต้องรับโทษเท่ากับผู้ใช้หรือสั่งการให้กระทำผิดด้วย แม้ตอนนี้ทั้งคู่จะยังไม่ได้ก่อเหตุขึ้น แต่ตำรวจมีหลักฐานว่านายโจ พยายามขอความช่วยเหลือจากอดีตนักการเมืองรายหนึ่งให้พา พ.ต.ท.บรรยิน หนีออกจากเรือนจำจริงแต่นักการเมืองรายนี้ไม่ร่วมด้วย จากนี้จะต้องเชิญอดีตนักการเมืองนี้มาสอบปากคำ รวมถึงทนายความที่นายโจ ให้การอ้างว่า พ.ต.ท.บรรยิน ให้มาช่วยประกันตัวออกไปว่ามีส่วนรู้เห็นกับแผนการชิงตัวนักโทษด้วยหรือไม่
พร้อมทั้งตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมร่วมระหว่างตำรวจกองปราบปรามและตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาลเกี่ยวกับคดีนี้อีกครั้ง” พ.ต.อ.เอนก กล่าว