จากกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาที่ตกเป็นจำเลยคดีฆาตรกรรม นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เเละคดีอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของ น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอาญากรุงเทพใต้ วางเเผนจะหลบหนีออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
โดยมีรายงานระบุว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รับทราบถึงแผนจะหลบหนีออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.ท.บรรยิน มาเป็นระยะ เริ่มที่
– เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามได้จับกุมตัว นายโจ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ หลังได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่ยังคงมีหมายจับค้างเก่าติดตัวอีก 1 หมาย เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวก่อนจะนำมาสอบปากคำ
– นายโจ ให้การรับสารภาพว่าที่ได้ประกันตัวออกมาเป็นเพราะ พ.ต.ท.บรรยิน ที่รู้จักกันในเรือนจำฯ ได้ให้ทนายความส่วนตัวติดต่อทนายความอีกคนให้มาประกันตัวนายโจออกจากเรือนจำ
– นายโจ เล่าอีกว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.บรรยิน ช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นเพราะขณะที่รู้จักกันในเรือนจำ พ.ต.ท.บรรยิน มีคำสั่งให้ตนทำงานให้ 2 ข้อ
– ข้อแรก ให้หาทางชิงตัวพ.ต.ท.บรรยิน ออกจากคุก
– แต่ถ้าข้อแรกทำไม่สำเร็จ ให้ลักพาตัวภรรยาของ ผบ.เรือนจำ มาให้ได้เพื่อไว้ใช้ในการต่อรองกับผบ.เรือนจำ เรื่องการหนีออกจากคุก
– ต่อมาพ.ต.ท.บรรยิน ให้เบอร์นายโจโทรติดต่อไปหา ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ ที่เคยเป็นลูกน้องของ พ.ต.ท.บรรยิน เพื่อร่วมกันวางแผน
– ครั้งแรกโทรติดต่อไปหา ส.ส. ที่พ.ต.ท.บรรยิน ให้เบอร์มาแต่ฝ่ายนั้นไม่เอาด้วย
– เว้นระยะเวลาไป 2-3 วัน ได้โทรไปหาอีกครั้งเพื่อขอเงินแต่ไม่ได้
– ต่อมากรมราชทัณฑ์ย้าย พ.ต.ท.บรรยิน ออกจากเรือนจำเดิมไปฝากขังที่เรือนจำบางขวาง ทำให้เครียดหนัก
– กระทั่งเวลา 18.00 น. วันที่ 12 มิถุนายน พ.ต.ท.บรรยิน คิดฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ แต่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พบก่อนจึงช่วยชีวิตทัน
อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนกองปราบปรามสืบสวนจนทราบว่า นอกจากนายโจ ที่ถูก พ.ต.ท.บรรยิน สั่งให้ทำงานแล้ว ยังมีนายท็อป อายุ 30 ปี ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ ชาวจ.นครสวรรค์ บ้านเดียวกันกับ พ.ต.ท.บรรยิน อีกคน โดยระหว่างที่ทั้งคู่ถูกคุมขังได้มีความสนิทกับ พ.ต.ท.บรรยิน อย่างมาก จากนั้นได้รับการปล่อยตัวออกมาจากการประกันตัว หลังทราบเรื่องชุดสืบสวนกองปราบปราม ได้ตรวจสอบหาเบาะแสจนสามารถจับกุมตัวนายท็อปได้หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนนำตัวมาสอบสวน
นายท็อป ให้การว่า รู้จักกับ พ.ต.ท.บรรยิน ในเรือนจำจริง ส่วนเรื่องการประกันตัวออกมาเป็นญาติหาเงินมาประกัน นอกจากนี้ยังให้การว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ พ.ต.ท.บรรยิน ได้สั่งให้หาทางช่วยเหลือออกจากคุกเช่นเดียวกับนายโจ โดยบอกว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้เล่ารายละเอียดในการวางแผน ว่าจะมีคนมาวางระเบิดข้างเรือนจำ จากนั้นจะล้มเสาธงชาติกลางลานสนามหญ้า เพื่อใช้ปีนหนี เมื่อออกมาได้จะมีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวอีกที