อนค.รอดยากคดีธนาธรปล่อยกู้??? ปิยบุตรแค่ดิ้น!?!โยงอภิปรายไร้ความหมาย?!?

0

(1) 5 ก.พ.63 ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี21 กุมภาพันธ์ กรณี กกต.ขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ปมเงินกู้ 191 ล้านบาท

(2) โดยศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้ว เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องและคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีพอวินิจฉัยได้ ไม่จำต้องทำการไต่สวนพยานบุคคล

(3) แต่เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้พยานบุคคล รวม 17 ปาก ตามที่ผู้ถูกร้องยื่น จัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นเป็นหนังสือยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 12 ก.พ. 63

(4)  6 ก.พ.63 ปิยบุตร แสงกนกกุล แถลงไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างเหตุผล4ประการ

(4.1) เพราะมีเอกสารของกกต.หลุดออกมา กระบวนการพิจารณาโดยมิชอบ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนถึง 2 คณะอ้าง ตามกฎหมายเรื่องต้องยุติ แต่ กกต.ยังยืนยันเดินหน้าต่อ

(4.2) การร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ต้องอ้างฐานความผิดการได้เงินมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือแหล่งที่ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 72 เพื่อไปร้องขอยุบพรรค แต่กรณีกล่าวหาอนค. เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่เข้าองค์ประกอบความผิด

(4.3) พยานบุคคล 17 ราย ที่พรรคยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ หลายรายเป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต. ที่มีความเห็นว่าพรรค อนค. ไม่มีความผิด สามารถกู้เงินได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดโอกาสให้มีการไต่สวน

(4.4) ปิยบุตร ยังอ้างวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ 24 ก.พ. แต่ศาลรัฐธรรมนูญมากำหนเวันอ่านคำวินิจฉัย 21 ก.พ. มีโอกาสที่จะถูกยุบพรรคก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

(5) จะทำให้กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ ไม่มีโอกาสอภิปราย ส.ส.ของพรรคจะย้ายไปสนับสนุนรัฐบาล ทำให้สภาวะเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาลหมดไปได้

(6) นั่นคือข้ออ้างของปิยบุตร ที่ดูเหมือนจะสมเหตุสมผล แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น??? เพราะข้อมูลที่ถูกต้องเป็นดังนี้

(7) 10 ธ.ค.62 กกต.ชี้แจงที่น.ส.พรรณิการ์ อ้างมีธงทางการเมืองเนื่องจากมีเอกสารความเห็นหลุดตั้งแต่ 20 กันยายน 62 แต่กกต.มาเรียกพยานหลักฐานตุลาคม 2562 นั้น

(8) ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 เลขาธิการกกต. ต้องมีความเห็นในสำนวนการสืบสวนเพื่อเสนอความเห็นต่อกกต.

(9) ซึ่งกรณีดังกล่าวเลขาธิการ กกต. ได้มีความเห็น เมื่อวันที่ 20 ก.ย.62 ตามที่ปรากฏ แต่เป็นการเสนอความเห็นในสำนวนเป็นไปตามขั้นตอนระเบียบมิใช่การชี้นำในสำนวน

(10) 18 พ.ย.62 คณะอนุกรรมการฯ ขอเอกสารพรรคอนาคตใหม่เพื่อประกอบการพิจารณา แต่พรรคไม่ได้จัดส่งตามที่ขอ

(11) 26 พ.ย.62 กกต.มีหมายเรียกขอเอกสารที่ยังไม่ได้จัดส่งอีกครั้งภายใน 2 ธ.ค. 2562 หากไม่จัดส่งถือว่าไม่ติดใจ

(12) ดังนั้นจะเห็นว่า การดำเนินการของกกต. เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกขั้นตอน ให้โอกาสผู้ที่เกี่ยวข้องตามควรแก่กรณี มิได้มีความเห็นตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2562 ตามที่มีการกล่าวอ้าง

(13) 15 พ.ค.62 ย้อนมาที่ต้นเรื่องคือจากที่ธนาธร ได้บรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฯ หรือ เอฟซีซีที ตอนหนึ่งธนาธรบอกว่าให้เงินพรรคยืมราว 110 ล้านบาท

(14) 20 พ.ค.62 น.ส.พรรณิการ์ ชี้แจงกรณีที่ตัวเลขที่ออกมาไม่ตรงกันนั้น เนื่องจาก 250 ล้านบาท เป็นจำนวนเงินที่เป็นวงเงินสูงสุดที่ธนาธร กำหนดให้พรรคกู้

(15) 20 พ.ค.62 วันเดียวกัน ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงเรื่องดังกล่าวว่า

(16) โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เงินดังกล่าวไม่ใช่รายได้แต่เป็นรายจ่าย จึงไม่ต้องรายงานต่อ กกต. ไม่ทราบว่าใช้หลักการคิดมาจากไหน ที่ว่าเงินที่ได้มาจากกู้ยืมผู้อื่นนั้นเป็นรายจ่าย

(17) ตามกฎหมายถือว่าเงินที่ได้มาจากการกู้ยืมบุคคลอื่นเป็นรายรับที่ได้มาจากกู้ยืมเงิน ส่วนในหลักการทางบัญชีไม่ทราบว่า เงินที่กู้ยืมมาถือว่าเป็นรายได้หรือจ่าย ต้องนำมาลงในบัญชีด้านรายรับหรือรายจ่าย

(18) พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 62 พรรคการเมืองอาจมีรายได้ ดังต่อไปนี้

(18.1) เงินทุนประเดิมตามมาตรา 9 วรรคสอง

(18.2) เงินค่าธรรมเนียมและค่าบํารุงพรรคการเมืองตามที่กําหนดในข้อบังคับ

(18.3) เงินที่ได้จากการจําหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรคการเมือง

(18.4) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมือง

(18.5) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค

(18.6) เงินอุดหนุนจากกองทุน

(18.7) ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคการเมือง

(19) ดังนั้น เงินกู้ยืมจึงไม่ใช่รายได้ที่กฎหมายอนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถกระทำได้

(20) มาตรา 87 เงินและทรัพย์สินของพรรคการเมืองต้องนําไปใช้จ่ายเพื่อดําเนินกิจกรรม ทางการเมืองของพรรคการเมือง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและสมาชิก และค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคการเมือง

(21) เงินของพรรคการเมืองจะนำไปใช้ได้เฉพาะตามที่ระบุไว้ในมาตรานี้เท่านั้น จะนำไปชำระเงินกู้ไม่ได้ ถ้านำไปใช้ก็จะมีความผิดและมีโทษตามมาตรา 132

(22) มาตรา 132 หัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง และเหรัญญิก พรรคการเมืองผู้ใดนําหรือยินยอมให้บุคคลอื่นนําเงินหรือทรัพย์สินของพรรคการเมืองไปใช้จ่าย เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอื่น หรือนําไปใช้เพื่อการอื่นใด อันเป็นการฝ่าฝืน

(23) มาตรา 87 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

(24) 21 พ.ค.62 ศรีสุวรรณ จรรยา เข้ายื่นหนังสือต่อกกต. ให้สอบการยืมเงินดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่ขัดหรือฝ่าฝืน พ.ร.ป.ด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่

(25) 11 ธ.ค. 62 กกต.มีมติพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากธนาธร 191,200,000 บาท เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 72แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

(25.1) จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

(26) จนกระทั่ง 5 ก.พ.63 ผ่านมาเกือบ 9 เดือนที่ศาลได้นัดฟังคำวินิจฉัย โดยปิยบุตรออกมาแถลงคัดค้านซึ่งมองอย่างอื่นไม่ได้นอกจากอาการดิ้นรน อ้างเหตุสารพัด โดยเฉพาะเอาไปโยงกับการอภิปราย เพราะอย่างไรแล้วฝ่ายค้านก็มีเสียงไม่พออยู่ดีในการโหวตคว่ำรัฐบาลได้ แม้ไม่มีอนาคตใหม่ ดังนั้นจึงไร้คาวมหมายถ้าจะมาอ้าง!!! ฉะนั้นงานนี้ฟันธงได้เลย รอดยาก?!?

#ปอกเปลือก#ปอกให้เห็นความจริง