(1) 3 ก.พ. 63 อนุทิน ชาญวีรกูล เปิดเผย “ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี พระราชทานเวชภัณฑ์ ของใช้จำเป็นในการดำรงชีวิตและการป้องกันโรคให้กับประชาชนชาวจีน”
(2) 3 ก.พ.63 ในวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ข่าว ในหลวง พระราชทานเวชภัณฑ์ช่วยจีน
(3) เที่ยวบินออกจากไทยนำสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ อุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เช่น เครื่องเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง เสื้อกาวน์กันน้ำ
(4) รวมทั้งความห่วงใย และปรารถนาดีจากชาวไทยไปมอบแก่ชาวจีน อันเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพที่ใกล้ชิดอันแน่นแฟ้นยาวนานของสองประเทศ เป็นกำลังใจให้ต่อสู้ฝ่าฟันสถานการณ์ฟื้นฟูประเทศโดยเร็วที่สุด
(5) ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ก.พ. 63 เพจ Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความ “จีน-ไทยร่วมมือต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่”
(6) ในระหว่างนักท่องเที่ยวจีนมีอาการป่วยและเข้ารักษาในสถานพยาบาลของไทย ได้ดูแลรักษาผู้ป่วยจีนเป็นอย่างดี
(7) จีนขอขอบคุณไทยที่ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ เช่นเดียวกัน ฝ่ายจีนก็ให้ความสำคัญยิ่งปกป้องชีวิตและสุขภาพของชาวไทยในจีน
(8) “เรามีความเชื่อมั่นว่า ภายใต้ความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย จีนและไทยจะสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดของโรคระบาดนี้ให้ได้แน่นอน”
(9) นั่นคือถ้อยความที่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ออกมาซึ่งได้สร้างความซาบซึ้งใจต่อคนทั้งสองประเทศเป็นอย่างยิ่ง
(10) 4 ก.พ. 63 เครื่องบินสายการบินไทยแอร์เอเชีย นำคนไทย 138 คน เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาโดยสวัสดิภาพ
(11) รัฐบาลไทยนำสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย 300,000 ชิ้น ถุงมือยาง 4,000 คู่ ชุดป้องกันเชื้อ 2,000 ชุด และวิตามินซี 2,000 ขวด
(12) รวมทั้งสิ่งของแสดงน้ำใจจากรัฐบาลไทย ได้แก่ หน้ากาก N95 และหน้ากากอนามัยรวม 6,104 ชิ้น ถุงมือยาง 240,000 คู่มอบให้รัฐบาลและประชาชนจีนพร้อมกับเที่ยวบินดังกล่าว
(13) 4 ก.พ.63 ดอน ปรมัตถ์วินัย โทรศัพท์คุย มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ขอบคุณอำนวยความสะดวกให้ฝ่ายไทยเป็นไปโดยเรียบร้อย
(14) มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชสาสน์และสิ่งของพระราชทานไปยังรัฐบาลและประชาชนจีน
(14.1) รวมทั้งขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือกำลังใจ และสนับสนุนจีนด้วย
(14.2) ฝ่ายจีนยังคงระลึกถึงความร่วมมือระหว่างจีน ไทย ในการเผชิญโรคซาร์ส เมื่อปี46 และเชื่อว่าจะร่วมมือกันฟันฝ่าสถานการณ์ท้าทายที่กำลังเผชิญไปได้ด้วยดีเช่นกัน
(15) 16 ส.ค.62 นางหยาง หยาง ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัคราชทูตจีน ประจำประเทศไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ 44 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน : โลกผันแปรแต่มิตรภาพยั่งยืน ช่วงหนึ่งมีเนื้อหาที่สำคัญว่า
(16) ความสัมพันธ์จีน-ไทยในอดีตกาล อันที่จริงมีความสัมพันธ์มายาวนานมากถึง 2,000 ปี
(17) จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 1 ของไทย 6 ปีติดต่อกัน ส่วนไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ในอาเซียนของจีน
(18) นักศึกษาจีนเข้าเรียนในไทยปัจจุบันมีราว 40,000 คน ส่วนคนไทยที่ไปเรียนในจีนมีประมาณ 30,000 คน
(19) 6 ก.พ.63 นักเขียนดับเบิ้ลซีไรต์ของไทย วินทร์ เลียววาริณ โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องราวดีๆระหว่างจีนกับไทยในห้วงเวลาการระบาดของไวรัสว่า
(19.1) หน้าหนึ่งของ บางกอก โพสต์ วันนี้บอกว่า บรรดาสื่อจีนชื่นชมความช่วยเหลือของไทยในเรื่องโคโรนา สื่อจีนหลายคนบอกว่า ไทยไม่ประนามจีนว่าเป็นต้นตอของโรค ตรงกันข้ามกลับช่วยเต็มที่
(19.2) ชาวจีนประทับใจที่คนไทยส่งสารปลอบขวัญชาวอู่ฮั่นให้สู้ๆ รวมทั้งความช่วยเหลือทั้งหลาย คนจีนรับรู้ และขอขอบคุณ
(20) และในตอนท้ายของโพสต์ วินทร์ได้ทิ้งหยดน้ำเล็กๆไว้ให้ชุ่มชื่นหัวใจว่า… เป็นข่าวเล็กๆ เหมือนน้ำใสหนึ่งหยดกลางแผ่นดินแห้ง เห็นบางส่วนของสังคมไม่เห็นมุมนี้ จึงบอกต่อ
#ปอกเปลือก#ปอกให้เห็นความจริง
