“ท่านว.วชิรเมธี” แสดงธรรมในงานพระราชทานเพลิงศพ “ตั้ว ศรัณยู” ภาพวันนี้ทำให้รู้เขาใช้ชีวิตคุ้มค่าได้การยอมรับ

จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ ศาลาเศรษฐี วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ ซอยเทอดไท 49 กรุงเทพมหานคร โดยเวลาประมาณ 16.34 น. มีเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังเป็นตัวแทนอัญเชิญกล่องเพลิงพระราชทานสำนักพระราชวัง

ในเวลา 17.00 น. ประธานในพิธีประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งครอบครัวและแขกผู้มาร่วมงานวางดอกไม้จันทน์ถือเป็นอันว่าเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพของ “นายศรัณยู วงษ์กระจ่าง” โดยพิธีมีพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ท่านว.วชิรเมธี) แสดงธรรมแก่แขกผู้มาร่วมงาน

ล่าสุด ภายหลังจากที่  ได้เดินทางไปแสดงธรรมแก่แขกผู้มาร่วมงานแล้วนั้น บนเพจเฟซบุ๊ก “พระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า วันที่ 18 มิถุนายน 2563 ท่านเจ้าคุณพระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) แสดงธรรมเรื่อง “การแสดงครั้งสุดท้าย” เนื่องในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ของคุณตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ณ วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร โดยในงานดังกล่าวมีผู้มาร่วมงานมากมายหลายพันคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า จึงเป็นที่มาของการได้รับความยอมรับนับถือจากประชาชนทุกกลุ่ม

บางถ้อยคำจากการแสดงธรรม เรื่อง “การแสดงครั้งสุดท้าย” ของท่านเจ้าคุณพระเมธีวชิโรดม (ท่านว.วชิรเมธี) เนื่องในพิธีพระราชทานเพลิงศพของคุณตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ณ วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร (18 มิถุนายน 2563)

“คุณค่าของคนขึ้นอยู่กับการเป็นคนที่รับใช้ประชาชน…ซึ่งคุณตั้วหรือศรัณยู วงศ์กระจ่าง ทำเช่นนั้นมาตลอดชีวิต ดังนั้น คุณตั้ว ศรัณยู จึงเข้าไปอยู่ทั้งในจอและในใจ ของคนไทยทุกชนชั้นวรรณะ…”

“งานที่เธอทำบรรจุถ้อยคำที่จะพูดถึงเธอเอาไว้ครบถ้วนแล้ว” “ชีวิตที่ดีต้องบำเพ็ญกรณีให้ครบสามขั้น คือประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์โลก”

“การได้เกิดมาเป็นคน เหมือนกับการได้พบกับนาทีทองของสังสารวัฏ ซึ่งเมื่อโอกาสนี้มาถึงแล้วต้องรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด…”

“สติของคนคนหนึ่ง จะส่งผลถึงคนอีกคนหนึ่งเสมอไป ก่อนที่จะอำลาจากโลกนี้ไป หากมีคนที่มีสติคอยอยู่ใกล้ ๆ คนป่วย คนป่วยก็จะจากไปอย่างสงบ…”

“คนส่วนใหญ่มัวแต่เตรียมวางแผนฉลองวันเกิด แต่น้อยคนนักจะคิดถึงการวางแผนฉากสุดท้ายให้แก่ตัวเอง”

“ความป่วยมีอยู่ในความแข็งแรง ความชรามีอยู่ในความหนุ่มสาว นิพพานมีอยู่ท่ามกลางกองกิเลส…”

“ชีวิตของเราสั้นลงทุกหลับตาลืมตา”

“หากเปรียบวันเวลาของเราแต่ละคนกับวันเวลาของโลกใบนี้ ชีวิตของเราแต่ละคนก็แสนสั้น เพียงชั่วผีเสื้อกระพือปีกเท่านั้น เวลาในโลกนี้ของเราก็หมดลงแล้ว…”

พระพุทธองค์ตรัสว่า “อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ โก ชญฺญา มรณํ สุเว.” “ควรทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะใครเลยจะรู้ว่าความตายอาจมาถึงในวันพรุ่งนี้”

ที่มา : พระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี