17 มิ.ย.63-มีความเคลื่อนไหวผ่านทางเฟสบุ๊คของนาย อัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ได้เปิดเผยถึงที่มา ที่มาของภาพ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.7 จับมือฮิตเลอร์ ระบุว่า…
ที่มาของ “การทักทายแบบฮิตเลอร์” ที่คุณ…อาจไม่เคยรู้ มีทั้งผู้หวังดี และผู้ไม่หวังดี ทักทาย ถามไถ่มาถึงภาพฮิตเลอร์รับเสด็จ ในหลวง ร.7 ที่มีทหารทำท่า “ไฮล์ ฮิตเลอร์”
ซึ่งผู้หวังดีเห็นผู้ไม่หวังดีพยายามโยงว่า ร.7 เกี่ยวข้องกับฮิตเลอร์และนาซีเยอรมัน แต่ความจริงอย่างที่เล่าไว้ในโพสต์เมื่อวานว่า เป็นภาพที่เกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายปี และในหลวงรัชกาลที่ 7 สละราชสมบัติในปีต่อมาหลังจากที่พบกับฮิตเลอร์ในภาพ
………………………………………………………………….
การทักทายแบบฮิตเลอร์ ดัดแปลงมาจากการคารวะแบบโรมถูกใช้ในหลายประเทศ
เช่น ลัทธิฟาสซิสต์อิตาลีก็นำการคารวะแบบดังกล่าวมาใช้
สารานุกรมโบรคเฮาส์ได้ให้รายละเอียดว่าการคารวะแบบดังกล่าวสันนิษฐานว่านำมาจากกิริยาท่าทางที่ใช้ระหว่างการราชาภิเษกของกษัตริย์เยอรมันในยุคกลางตอนต้น พร้อมกับเปล่งเสียงออกมาว่า “ไฮล์”
ในสมัยโบราณ ผู้ปกครองโรมันชอบท่องเที่ยวไปตามยุโรปตอนเหนือ ดังนั้น พรรคนาซีจึงมีความเชื่อว่าชาวโรมันได้นำเอาการคารวะดังกล่าวไปใช้ในกรุงโรมด้วย
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1933 ถึง 1945 การทักทายแบบฮิตเลอร์ถือว่าเป็นการทักทายแบบเยอรมันโดยทั่วไป การเปล่งเสียงว่า “ไฮล์ ฮิตเลอร์”
และเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 กำลังทหารทั้งหมดในนาซีเยอรมนีได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนจากการทำวันทยหัตถ์เป็นการทักทายแบบฮิตเลอร์ทั้งหมด
สรุปว่า ท่านั้น มีใช้มาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารเยอรมันทุกหน่วยได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนท่าทำความเคารพเป็นท่าที่เรียกว่า การทักทายแบบฮิตเลอร์
และภาพที่ ฮิตเลอร์มาเฝ้ารับเสด็จ ในหลวง ร.7 คือภาพก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายปี ก่อนที่ฮิตเลอร์จะกลายเป็นท่านผู้นำ อาชญากรสงคราม
………………………………………………………………….
อัษฎางค์ ยมนาค
รวบรวม เรียบเรียง
ย้อนหลังตอนที่แล้ว
https://www.facebook.com/1234993066616474/posts/3079320695517026/?d=n