เงิบกลางวงกมธ.!อัยการฯให้ญาติวันเฉลิมไปแจ้งความก่อน โรมบอกพี่สาวต้องไปหาตร.

0

จากที่มีกระแสว่า วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ที่อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชาหายตัวไปต่อมาฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพยายามปลุกกระแสเรื่องนี้โดยคล้ายโยนความผิดไปที่พล.อ.ประยุทธ์ ขณะญาติเองก็ยังไปไม่แจ้งความ

ล่าสุดนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความรายงานถึงผลการประชุม พิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีอุ้มหาย “วันเฉลิม” ลงในเฟซบุ๊กว่า

ช่วงเช้าวันนี้ (17 มิถุนายน 2563) คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณี คุณวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกลักพาตัวหรือถูกบังคับสูญหายไประหว่างพำนักในประเทศกัมพูชา

โดยมีผู้ที่มาชี้แจงทั้งหมด 8 ฝ่าย คือ ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ, ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN OHCHR), ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม, ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้แทนสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก, ผู้แทน Human Right Watch และผู้ร้อง

ส่วนเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ได้มีการประสานงานเข้ามาว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากติดภารกิจเร่งด่วน โดยผมได้ถามต่อกระทรวงต่างประเทศถึงสถานการณ์ล่าสุดที่ได้รับรายงานจากทางฝั่งกัมพูชา ซึ่งมีการยืนยันว่าได้ประสานงานทางการทูตเพื่อติดตามเรื่องนี้แล้ว

ต่อประเด็นความคืบหน้าในการดำเนินการสืบสวนคดีของคุณวันเฉลิม ผู้แทนอัยการสูงสุด ได้มีการเสนอแนะว่าทางการไทยสามารถที่จะดำเนินคดีการหายตัวไปของคุณวันเฉลิมได้ โดยอาจริเริ่มจากผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ และตำรวจทำสำนวนการสอบสวนมาเพื่อให้อัยการสูงสุดซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเป็นพนักงานสอบสวนในกรณีที่มูลคดีเกิดที่ต่างประเทศ

ในกรณีนี้เอง ประธานในที่ประชุมได้ขอมติที่ประชุมกรรมาธิการ เพื่อแจ้งให้พี่สาวของคุณวันเฉลิม ดำเนินการตามที่ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดได้นำเสนอแนวทางการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีนี้ เนื่องจากมีช่องทางทางกฎหมายให้ดำเนินการภายในประเทศได้ ซึ่งทางพี่สาวของคุณวันเฉลิมได้ปรึกษากับอธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศแล้ว และเตรียมจะดำเนินการตามคำเสนอแนะนั้น

ในส่วนของนโยบายและมาตรการของ OHCHR ต่อกรณีของคุณวันเฉลิม ซึ่งผู้แทน OHCHR มองว่าประเทศไทยมีพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับ โดยเฉพาะเรื่องการต่อต้านการทรมานและการป้องกันบุคคลไม่ให้สูญหาย และยินดีที่ได้เห็นเวทีแลกเปลี่ยนกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการหายตัวไปของคุณวันเฉลิม

ทั้งยังยินดีที่ได้รับทราบว่าจะมีการผ่านร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ…. เป็นกฎหมายภายในประเทศต่อไปในไม่ช้า ทั้งนี้องค์กรและกลไกระหว่างประเทศมีความห่วงใยเรื่องการเยียวยาแก่ญาติผู้สูญหาย และดำเนินการให้มีการนำผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษ

ในช่วงท้าย ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกลไกในการคุ้มครองสิทธิของคนไทยในต่างประเทศ ซึ่ง ผอ.กองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม บอกกับผมว่าคณะกรรมการป้องกันและการปราบปรามการทรมานปฏิบัติงานตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี และมีหน้าที่คัดกรองติดตามสืบสวนและเยียวยาตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี และมีการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่ว่ามานี้แล้วในระหว่างที่ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายยังไม่ผ่านสภา

โดยสรุปแล้วประเด็นแรก คณะกรรมาธิการเห็นด้วยให้ผู้ร้อง ใช้กระบวนการการร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยให้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ และตำรวจทำสำนวนการสอบสวนมาเพื่อให้อัยการสูงสุดซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเป็นพนักงานสอบสวนในกรณีที่มูลคดีเกิดที่ต่างประเทศ

ประเด็นที่สอง คณะกรรมาธิการขอให้ทาง สตช. รายงานข้อเท็จจริงต่อกรรมาธิการ กรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเยี่ยมบ้านคุณวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์อุ้มหาย คุณวันเฉลิม ที่ประเทศกัมพูชา

ประเด็นสุดท้าย คณะกรรมาธิการยืนยันที่จะให้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฉบับที่ภาคประชาชนนำเสนอ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ดำเนินการพิจารณาร่วมกับภาคประชาชนโดยเร็ว และให้นำเสนอเพื่อขอมติคณะกรรมาธิการส่งเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ที่มา : เฟซบุ๊ก Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม