ดร.นิว-ศุภณัฐ อภิญญาณ ฉะแหลก”ชาญวิทย์”ลมตดแห่งประชาธิปไตยจอมปลอม หลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือก่อม็อบทางการเมือง
17 มิ.ย.63 มีความเคลื่อนไหวจากทางเฟสบุ๊ค Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า.. #ลมตดแห่งประชาธิปไตยจอมปลอม
เหตุผลสำคัญที่ประชาธิปไตยไม่เจริญงอกงามในประเทศไทยประการหนึ่งก็คือ เรามีแต่บรรดานักปลุกปั่น (Demagogue) กับ นักใช้กฎหมู่ (Ochlocrat) ที่คอยแต่เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แล้วดันแอบอ้างประชาธิปไตยและประชาชนบังหน้าอยู่ตลอดเวลา ทั้งหมดก็เพื่อหลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือเพื่อการก่อม็อบทางการเมือง
พวกประชาธิปไตยจอมปลอมพวกนี้เป็นประชาธิปไตยแต่เปลือก แต่ไม่ได้มีอุดมการณ์และความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการต่อสู้แบบลมตดของนักประชาธิปไตยจอมปลอมที่ชัดเจนตัวอย่างหนึ่งก็คือ การคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ นำโดย อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และคณะอนาคตใหม่
สุดท้ายแล้วการคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ก็เป็นเรื่องของคนเห็นแก่ตัวที่พยามเอาตัวรอดจากความผิดทางกฎหมายเมื่อตัวเองสูญเสียประโยชน์ก็เท่านั้น แต่ไม่ได้มีอุดมการณ์ทางประชาธิปไตยที่ต้องการจะคัดค้านการยุบพรรคการเมืองและความรู้ความสามารถมากพอที่จะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง แล้วบัดนี้ การเคลื่อนไหวดังกล่าวก็เงียบหายไปในอากาศไม่ได้ต่างอะไรจาก “ลมตด”
เพราะถ้าคนพวกนี้มีความเห็นต่างกับกฎหมายดังกล่าวจริงๆ มีความรักในประชาธิปไตยที่มากพอ และต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมในภายภาคหน้า ก็สามารถทำได้โดยการใช้ มาตรา 256 รวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 50,000 คน มายื่นเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แต่สุดท้ายคนพวกนี้ก็แค่นักปลุกปั่นทางการเมือง เป็นลัทธิประชาธิปไตยแต่ปาก แต่การกระทำไร้สาระยิ่งกว่าเด็กอมมือที่เอาแต่คอยระดมปลุกปั่นโดยใช้โลกโซเชียลหวังหลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง
จริงๆแล้ว การยุบพรรคการเมืองหรือการบังคับใช้กฎหมายยุบพรรคการเมืองในประเทศต่างๆ ก็มักที่จะหายไปเองตามกาลเวลาเมื่อไม่มีการทำผิดกฎหมายเลยในระยะเวลาหนึ่ง แต่ประเทศไทยก็แปลกประหลาดที่มักมีคนปกป้องคนที่ทำผิดกฎหมาย แล้วในขณะเดียวกันก็มีความพยายามที่จะยกเลิกกฎหมายต่างๆ ทั้งๆที่ยังมีคนกระทำความผิดตามกฎหมายนั้นๆอย่างชัดเจน จนประหนึ่งว่าคนที่อยากจะยกเลิกกฎหมายต่างๆกับคนที่ทำผิดกฎหมาย หรือยุให้ผู้อื่นทำผิดกฎหมายมักจะเป็นคนกลุ่มเดียวกันหรือเครือข่ายเดียวกันกันเสมอ
สุดท้าย อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ กับคณะอนาคตใหม่ หรือกลุ่มคนที่ออกมารณรงค์ให้แก้กฎหมายยุบพรรคการเมืองในช่วงเวลาดังกล่าวก็ไม่ได้มีความจริงใจต่อประชาธิปไตยแต่อย่างใด แล้วในที่สุดเจตนารมณ์ในการคัดค้านการยุบพรรคการเมืองก็เงียบหายไป
ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรจาก “ลมตด” ที่เป็น “ลมตดแห่งประชาธิปไตยจอมปลอม” ซึ่งไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆให้กับสังคม หรือไม่คนเหล่านี้ก็อาจจะไม่มีปัญญามากพอที่จะรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 50,000 คน
ในโลกของความเป็นจริง จะทำได้ก็แต่การล่ารายชื่อเฟสปลอมมาปั่นกระแสในโลกโซเชียลตบตาประชาชน มันจะยากตรงไหนถ้าพวกคุณมีมวลชนในโลกของความเป็นจริงซึ่งเป็นประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 50,000 คน?
โดยส่วนตัว…แม้ผมไม่ได้เห็นด้วยกับพวกคุณ แต่ก็ยินดีจะช่วยสนับสนุน และผลักดันเรื่องดังกล่าว ถ้าพวกคุณมีสติปัญญาและความสามารถที่จะเคลื่อนไหวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ภายใต้กรอบและขอบเขตของกฎหมายรัฐธรรมนูญ…
ไม่ใช่การระดมปลุกปั่นกระแสลมตดในโลกโซเชียล หวังหลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้เกิดม็อบที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความรุนแรง
ดร.ศุภณัฐ
17 มิถุนายน พ.ศ. 2563
#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ
#ลมตดแห่งประชาธิปไตยจอมปลอมเหตุผลสำคัญที่ประชาธิปไตยไม่เจริญงอกงามในประเทศไทยประการหนึ่งก็คือ เรามีแต่บรรดานักปลุกปั่น…
Posted by Suphanat Aphinyan on Tuesday, June 16, 2020