จากกรณีที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อเดือนพ.ค.2563 ที่ผ่านมา ว่าตนเองกำลังกินยารักษาโรคมาลาเรีย เพื่อต้านเชื้อโควิด-19 หลังจากได้ปรึกษากับแพทย์ประจำทำเนียบขาว จึงเริ่มกินยาไฮดรอกซีคลอโรควิน เป็นประจำทุกวัน นาน 2-3 สัปดาห์ พร้อมอ้างว่าบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากก็รับประทานยาดังกล่าวเป็นประจำเช่นกัน
ต่อมาโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า ยาดังกล่าวปลอดภัย เนื่องจากใช้รักษาโรคมาลาเรียและโรคต่าง ๆ มาแล้วนานถึง 40 ปี แม้จะมีผลวิจัยทางการแพทย์และข้อคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง ที่ระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่ายาไฮดรอกซีคลอโรควิน ใช้รักษาหรือป้องกันโควิด-19 ได้ และอาจมีผลข้างเคียงรุนแรง ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ล่าสุดทางสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA ประกาศถอนการอนุญาตให้ใช้ยารักษาโรคมาลาเรีย ไฮดร็อกซีคลอโรควีน (Hydroxychloroquine) และ คลอโรควีน (Chloroquine) ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 กรณีฉุกเฉิน ท่ามกลางหลักฐานที่เพิ่มขึ้นว่ายาดังกล่าวใช้ไม่ได้ผล และมีผลข้างเคียงที่อันตรายถึงแก่ชีวิต
แม้ว่าก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกมาสนับสนุนอย่างเปิดเผยให้ใช้ยานี้ในการรักษาผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่ FDA ยืนยันในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.63 ที่ผ่านมาว่า ยาทั้งสองชนิดนี้ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาเชื้อโควิด-19 และประโยชน์ที่จะได้จากยานี้ยังไม่แน่ชัด ในขณะที่มีหลักฐานว่าอาจสร้างความเสี่ยงมากกว่า ที่ผ่านมายาไฮดร็อกซีคลอโรควีน และยาคลอโรควีน ถูกใช้ในการรักษาโรคมาลาเรีย รวมทั้งโรคลูปัสและไขข้ออักเสบเรื้อรัง แต่อาจก่อผลข้างเคียงต่อการเต้นของหัวใจ ทำให้ความดันโลหิตต่ำ หรืออาจทำลายกล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้
คำสั่งถอนการอนุญาตใช้ยาดังกล่าวหมายความว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะไม่จัดส่งยานี้ให้แก่หน่วยงานสาธารณสุขส่วนท้องถิ่นและของรัฐต่าง ๆ สำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่แพทย์เอกชนในสหรัฐฯ ยังสามารถจ่ายยานี้ให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ได้เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษา
อย่างไรก็ตามการใช้งานได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนบางส่วนในสหรัฐฯ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทรัมป์ ผลักดันอย่างเปิดเผยให้ใช้ยานี้ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ใหม่ ๆ และผู้นำสหรัฐฯ ยังทำให้ผู้นำด้านสาธารณสุขต้องตกใจอย่างมาก เมื่อเจ้าตัวกล่าวว่า เขาได้ทดลองใช้ยานี้ด้วยตัวเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัส หลังจากนั้น ประชาชนหลายหมื่นคนได้ใช้ยานี้ตามที่ประธานาธิบดีแนะนำ
ขอบคุณภาพ :foxbusiness.com