จากกำลังเป็นประเด็นพูดถึงกันเกี่ยวกับการใช้มาตรา112 ที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทรงมีพระเมตตาไม่ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่จาบจ้วงล่วงละเมิด ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง2-3ปีนี้มีการใส่ร้ายและกล่าวหาสถาบันอย่างเปิดเผยหลายครั้งหลายกรณีด้วยกัน
ขณะวานนี้(15มิ.ย.63) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาระบุว่าขณะนี้มีขบวนการล้มเจ้า เกิดขึ้น ว่า กำลังตรวจสอบอยู่ ถ้าอันไหนที่ได้แล้ว ก็จะแจ้งความดำเนินคดี
เมื่อถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าไม่ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เรื่องนี้เราไม่ใช้อยู่แล้ว”
และเมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงมีการข่าวอะไรมาเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็กำลังดูรายชื่อที่มีอยู่”
ล่าสุดวันนี้(16มิ.ย.63) นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และนักกิจกรรมทางการเมือง ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก อานนท์ นำภา ด้วยว่า
ก่อนจะห้ามไม่ให้พูดถึงสถาบันกษัตริย์ รัฐบาลต้องสอบสวนก่อนว่าทุกข้อกล่าวหานั้นเกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์หรือไม่ ไม่ใช่มาห้ามคนพูดถึงเลย
ไม่งั้นก็จะกลายเป็นว่าคนในสถาบันกษัตริย์ทำอะไรก็ไม่ผิด ไม่สามารถตรวจสอบได้ คนที่เสียภาษีบำรุงเลี้ยงดูสถาบันกษัตริย์ได้แต่มองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้เลย ส่วนคนที่ออกมาวิจารณ์ก็ถูกดำเนินคดี ถูกใช้วิธีนอกกฎหมายกันไป
แบบนี้ ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการแน่นอน และเมื่อถึงขีดสุด อย่ามาโอดโอยถ้าประชาชนจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงการปกครอง แบบที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 88 ปีที่แล้ว ก็แล้วกัน
ทั้งนี้การออกขู่ของนายอานนท์ ที่ลากโยงไปที่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ88ปีที่แล้ว นั่นหากหมายถึงเหตุการณ์ 24 มิถุนา 2475 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 88 ปีที่แล้วนั้น
หากสนใจศึกษาจะพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่ส่งผลทำให้ราชอาณาจักรสยามเปลี่ยนรูปแบบประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นระบอบประชาธิปไตย เกิดขึ้นจากคณะนายทหารและพลเรือนที่ประกอบกัน เรียกตนเองว่า “คณะราษฎร” ไม่ใช่เกิดจากการลุกฮือออกมาชุมนุมประท้วงของประชาชนทั่วไปให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแต่อย่างใด??? ทั้งยังปรากฏภายหลังว่า บุคคลในคณะผู้ก่อการยังแก่งแย่งอำนาจ แบ่งฝ่ายกันจนเป็นที่รับรู้ตลอดมา88ปี
ดังนั้นการที่นายอานนท์ พยายามข่มขู่โดยอ้างประชาชนจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงการปกครองแบบที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ88ปีที่แล้ว จึงคล้ายจะบิดเบือน หรือ อาจเป็นการพูดแบบคนไม่ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ข้อเท็จจริง??? ซึ่งไม่รู้ว่า อานท์ จะสนใจนำพาเรื่องจริงเหล่านี้หรือไม่???