งานนี้ต้องบอกว่าสะเทือนรั้วปทุมวัน เมื่อมีการคำสั่งย้ายบิ๊กตำรวจระดับรองผบ.ตร. ทำให้เกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น??? เพราะเหตุใดจะเกี่ยวเนื่องกับศึก2เสือหรือไม่ และที่สำคัญส่งผลอะไรต่อเก้าอี้เบอร์หนึ่งสีกากี?!?
(1) 24 ม.ค.63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ เปิดเผยมีคำสั่งให้ รอง ผบ.ตร. ไปปฎิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยพบว่า สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 22/2563 ให้ข้าราชการตำรวจปฎิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจริง
(2) คำสั่งดังกล่าวมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รายงาน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. มีพฤติการณ์และการกระทส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ในการอำนวยการยุติธรรม กระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(3) การปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 24/2563 ลงวันที่ 21 มกราคม 2563 แล้ว
(3) เพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและเรื่องอื่นๆ ในมูลกรณีที่ประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างตรวจสอบให้เป็นไปอย่างโปร่งใสมีความน่าเชื่อถือ และเพื่อให้เป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนและผู้ร้องเรียน
(4) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (4) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จนกว่าจะมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประการอื่น สั่ง ณ วันที่ 23 ม.ค.2563
(5) นั่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็เกิดข้อสงสัยว่าเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวเมื่อ 8 ม.ค.63 ที่ผ่านมาหรือไม่???
(6) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกรณีถูกคนร้ายลอบยิงรถยนต์ได้รับความเสียหาย โดยมี พล.ต.อ.วิระชัย รอง ผบ.ตร. ร่วมสอบปากคำ
(7) ก่อนเข้าให้ปากคำ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการไบโอเมทริกซ์มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เหตุการณ์แบบนี้เป็นแผนประทุษกรรมเดิมๆ ที่รู้กันหมดแล้วว่าใครทำ
(8) “สำหรับบุคคลต้องสงสัย พอมีข้อมูลแต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร หากไม่ใช่คนมีอำนาจก็ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ ถ้าผมเป็น ผบ.ตร. และจับคนร้ายไม่ได้ก็ต้องออกมารับผิดชอบ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ”
(9) บิ๊กโจ๊ก ยังยืนยันเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการชิงตำแหน่ง หรือกลับไปดำรงตำแหน่งกับตำรวจด้วยวิธีการแบบนี้ แม้จะอยากกลับ กลับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
(10) ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยถึงคลิปเสียงบทสนทนาของผู้ชาย 2 คน และมีการนำมาลงในโลกโซเชียล ว่า ตนได้นั่งอยู่ด้วย เป็นบทสนทนาระหว่าง”ท่าน ผบ.ตร. และพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.”จริง
(11) เป็นการกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาตามปกติ การอัดคลิปเสียง และปล่อยเสียงลงในโลกโซเชียลมีเดีย ก็ไม่ทราบว่าใครอัดและอยากรู้เหมือนกันว่าใครทำ เพราะโดยมารยาทแล้ว ไม่ควรอัดบทสนทนาเอาไว้
(12) 9 ม.ค.63 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทีวีช่อง3 อ้างคำให้สัมภาษณ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือ บิ๊กแป๊ะ ที่ยอมรับว่า เสียงในคลิป เป็นการสนทนาของตัวเองกับพล.ต.อ.วิระชัย แต่ไม่ได้สั่งให้เบรกการทำ”คดียิงรถบิ๊กโจ๊ก”
(13) ส่วนที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ถ้าเป็นผบ.ตร.แล้วจับคนร้ายไม่ได้ จะแสดงความรับผิดชอบ พล.ต.อ.จักทรทิพย์ กล่าวว่า ก็คงมีคนลาออกไปหลายคนแล้ว
(14) ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พูดถึงคลิปเสียงว่า รู้สึกหดหู่ใจ ย้ำคำพูดดังกล่าวไม่ควรที่จะออกมาจากปากของผู้นำองค์กร เป็นการใช้อำนาจแบบไม่เป็นธรรม และยังบ่งบอกถึงคุณธรรมและจริยธรรม ส่วนความสัมพันธ์กับพล.ต.อ.วิระชัย ไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัว เป็นเพียงผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา
(15) นั่นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อนำพาเนื้อหาให้สังคมได้รับทราบถึงที่มาที่ไป โดยจะได้ติดตามประเด็นนี้อย่างเข้าใจ ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่าง2เสือ บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กแป๊ะ?!?
(16) 24 ม.ค.63 พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีคำสั่งที่ 29/2563 ลงวันที่ 23 มกราคม เรื่องกำหนดลักษณะงานและมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้จเรตำรวจแห่งชาติ รอง ผบ.ตร. ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รองจเรตำรวจ และผู้บัญชาการประจำ
(17) ทั้งนี้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและคดี และงานปราบปรามด้านละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบส่วนงานด้านสืบสวนสอบสวน
(18) ภายหลังมีคำสั่งย้าย พล.ต.อ.วิระชัยแล้ว ทางบิ๊กแป๊ะ ผบ.ตร.ก็มีคำสั่งตั้ง2นายตำรวจ เข้ามาหนึ่งนั้น คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์…ทำไมถึงเป็นนายตำรวจคนนี้???
(19) น่าสนใจว่า บิ๊กแป๊ะ จะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.นี้แล้ว ใครจะขึ้นมาสู่เบอร์หนึ่งรั้วปทุมวัน??? ชื่อ สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็นใคร-น่าสนใจหรือไม่???
(20) เรื่องนี้ต้องย้อนมาดูคำสั่งแบ่งงาน “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ มอบหมายงานใหม่ให้นายตำรวจระดับ “บริหาร” ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 ที่ผ่านมา
(21) ซึ่งวงการสีกากีต่างส่องสปอตไลต์ไปที่ บิ๊กปั๊ด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.ใหม่ป้ายแดง ที่ดูเหมือนจะโดดเด่น
(22) บิ๊กแป๊ะมอบหมายให้บิ๊กปั๊ด นรต.36 คุมงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ ขณะงานกฎหมายและคดี มอบ พล.ต.อ.วิระชัย นรต.37 รับผิดชอบ
(23) นายตำรวจที่จะเกษียณอายุราชการปีนี้(2563) พร้อมพล.ต.อ.จักรทิพย์ คือ “บิ๊กช้าง” พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ ส่วน พล.ต.อ.วิระชัย เกษียณปี 2565 พร้อมพล.ต.อ.สุวัฒน์ เกษียณปี 2565
(24) ที่สปอตไลต์ส่อง “บิ๊กปั๊ด” ก็เพราะมีองค์ประกอบ อย่างน้อยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นบิ๊กแป๊ะนรต.36 ซึ่งหากวันที่ 1 ตุลาคม 2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.ก็น่าลุ้นยิ่ง!?!
(25) เป็นความน่าลุ้นที่ประสานสองแรงบวก หนึ่งคือ คู่แข่งสู่เบอร์หนึ่ง คือ พล.ต.อ.วิระชัย รองผบ.ตร.ลำดับ 1 ถูกย้ายออกจากรั้วปทุมวันในขณะที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผงาดเข้ามา?!?
(26) ในขณะที่มองกันว่านับจากความขัดแย้งระหว่างบิ๊กโจ๊กกับบิ๊กแป๊ะ ได้บานปลายกลายเป็นสงครามสีกากี อันมีพล.ต.อ.วิระชัย ที่ถูกมองว่าอยู่ฝั่งบิ๊กโจ๊กจากกรณีคลิปเสียง??? และในขณะพล.ต.อ.สุวัฒน์ เป็นเพื่อนบิ๊กแป๊ะ
(27) เช่นนี้เป็นการปิดโอกาสก้าวขึ้นผบ.ตร.ของพล.ต.อ.วิระชัย หรือไม่??? และเช่นนี้เป็นการเปิดโอกาสให้พล.ต.อ.สุวัฒน์หรือไม่??? ทั้งเช่นนี้คือการเตะตัดขาใครหรือไม่??? เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่เดือน!?!
#ปอกเปลือก#ปอกให้เห็นความจริง