ณัฐวุฒิบอกเลิกเคอร์ฟิวไม่ใช่ข่าวดี! สุภรณ์สวนคิดเหมือนคนปัญญาอ่อน?

0

จากที่รัฐบาลประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศแต่ยังคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไว้ระยะหนึ่งเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดยังมีอยู่ซึ่งคนไทยเห็นด้วย แต่มีแกนนำม็อบบางคนที่ออกมาโจมตี เพราะเห็นว่ายังมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯนั้น

ล่าสุดวันนี้ (13 มิ.ย.63) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “การเลิกเคอร์ฟิวไม่ใช่ข่าวดี และที่ร้ายกว่ายังคง พรก.ฉุกเฉิน เอาไว้” ว่า อยากให้นายณัฐวุฒิ ได้เข้าใจกระบวนการทำงานของรัฐบาล และ ศบค.ที่ประสบผลสำเร็จจนทั่วโลกยอมรับ นี่คือวิธีการวางแผนทำงานที่รอบคอบมียุทธวิธีที่มีแบบแผน จนทำให้ประเทศชาติประชาชนกำลังจะก้าวผ่านวิกฤตไวรัสร้ายเป็นผลสำเร็จอย่างที่เห็น

“นายณัฐวุฒิ เองเคยเป็นรัฐมนตรีน่าจะมีความรู้ความเข้าใจการบริหารมากกว่านี้ การที่มาบอกว่า เมื่อไม่มีเคอร์ฟิว จะคง พรก.ฉุกเฉิน ไว้ทำไม นายณัฐวุฒิทำไมไม่คิดว่า สถานการณ์โควิดยังไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าเกิดมีการแพร่ระบาดกลับมาอีก นายณัฐวุฒิจะรับผิดชอบหรือไม่

การคง พรก.ฉุกเฉิน ไว้ เป็นการไม่ประมาทเพื่อป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดรอบสอง ให้มั่นใจสูงสุดเป็นการดีอยู่แล้ว ยิ่งรัฐบาลยกเลิกเคอร์ฟิวยิ่งดีใหญ่ มีแต่เสียงประชาชนชื่นชมตอบรับทั่วประเทศ ฝากขอบคุณรัฐบาลมาว่าทำถูกต้องแล้ว มีแต่คนต่อต้านรัฐบาลตลอดเวลาเท่านั้นที่คิดแต่ในแง่ลบ

นายณัฐวุฒิ มีแต่ชุดความคิดเก่าๆ แบบ Old Normal คิดทุกเรื่องเป็นการเมืองไปหมด การกล่าวหาว่ารัฐบาลคง พรก.ฉุกเฉิน เอาไว้เพื่อรวบอำนาจทางการเมือง จึงเป็นวิธีคิดแบบเก่าๆของคนที่คิดไม่สร้างสรรค์ และชอบสร้างวาทกรรมขึ้นมาว่า อย่าได้คิดเอา พรก.ฉุกเฉิน เป็น New Normal ส่วนหนึ่งของสังคมไทย ตนฟังยังไงก็เป็นคำพูดนักโต้วาทีแบบสภาโจ๊ก ฟังแล้วยังอดขำไม่ได้ ว่าเอาอะไรมาคิด วันๆ นายณัฐวุฒิสมองคงว่างเอามากๆ รัฐบาลไหนจะคิดแบบคนปัญญาอ่อนเหมือนใครบางคนเช่นนั้นครับ”

นอกจากนี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า วันนี้รัฐบาลประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับโควิด จนนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้กับประชาชนถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เหลือกิจการและกิจกรรมเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่คงอยู่ และเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ทุกอย่างปกติแล้ว รัฐบาลจะคืนวิถีชีวิตปกติให้กับประชาชนและจะมีการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ต่อไปอย่างแน่นอน