แก้ PM2.5 เกาให้ถูกที่คัน
นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล
PM2.5 แหล่งที่มาสูงสุดคือการเผาในที่โล่ง ส่ง PM ปีละ 209,937 ตัน และแหล่งเผาใหญ่สุดคือการเผาไร่อ้อย แก้ PM ถ้าเกาให้ถูกที่ตรงตำแหน่งนี้อาจลด PM ได้กว่าครึ่งค่อน
เผาไร่อ้อยมีห่วงโซ่ 3 ห่วง คือภาครัฐ โรงงานน้ำตาล ชาวไร่อ้อย ส่วนปชช.จมูกดำๆคือผู้รอรับผลกระทบ
ส่วนผู้ได้ประโยชน์สูงสุดคือโรงงานน้ำตาลซึ่งทำกำไรจากการค้าน้ำตาลมาตลอดทุกยุคสมัยอยู่แล้ว ชาวไร่หากินพอกันตาย แต่ทุกวันนี้พอเผาไร่ก็ตกเป็นจำเลยสังคม ส่วนภาครัฐก็ไปไม่เป็น (หรือเป็นไม่ไป) ได้แต่ออกกฎว่าโรงงานไหนรับอ้อยไฟไหม้เกิน 30% ต้องปรับ แต่โรงงานโวยโดยเอาชาวไร่เป็นตัวประกัน บอกว่า “จำเป็น เพื่อชาวไร่ตาดำๆ” เลยต่อรองขอเป็นรับซื้อไม่เกิน 50% ส่วนค่าปรับโรงวานคือถ้าซื้อเกิน ปรับ 12 บาท/ตัน รถบรรทุก 1 คันคือ 50 ตัน เท่ากับปรับคันละ 600 บาทเรื่องแบบนี้ถ้าภาครัฐไม่มีนโยบายชัดเจน ก็เป็นงูกินหาง หาจุดจบไม่ได้ ปรากฏการณ์ “หิมะสีดำ” คือเถ้าถ่านจากเผาไร่อ้อยตกลงบนหลังคา หัวหูชาวบ้านจนลืมตาไม่ขึ้นก็ดำเนินต่อไป
ถ้าภาครัฐถือเรื่องมลภาวะอากาศเป็นวาระแห่งชาติจริง ผมอยากเห็นรัฐยืนขึ้นมาพูดว่า เผาไร่อ้อยต้องจบใน 3 ปี แล้วดำเนินการดังนี้:
1)ขอความร่วมมือสมาคมโรงงานน้ำตาลให้ใช้ธรรมาภิบาลมาแก้ปัญหา
2)จัดซื้อรถตัดอ้อยด้วยงบจาก 2 ฝ่าย คือรัฐกับโรงงานน้ำตาล
3)จัดระบบปลูกอ้อยใหม่ให้พร้อมแก่การตัดด้วยเครื่องจักร โดยเริ่มแต่ฤดูกาลหน้านี้เลย ตั้งเป้าปีแรก 50% ปี 2-3 อีกปีละ 25%
4)จัดระบบตัดอ้อยโดยโรงงานกับลูกไร่ในเขตของแต่ละโรงงานอย่างเป็นธรรม
5)พ้นจากระยะ 3 ปีนี้ กวดจับอย่างไม่ต้องนำเกรง
ประชาชนจมูกดำๆกำลังรอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
#เผาในที่โล่ง #เผาไร่อ้อย #pm #เกาให้ถูกที่คัน #ลุง