วัยรุ่นอายุ 18 ปวดศีรษะอาเจียน ชักและประสาทสัมผัสที่เปลี่ยนแปลง มารักษาตัวที่โรงพยาบาล เผยภาพเอกซเรย์พบพยาธิตืดหมูเพียบ กระจายทั่วร่างกาย
12 มิ.ย.63 เพจเฟซบุ๊ก PDRC ศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โพสต์เรื่องราวของผู้ป่วยอายุ 18 ปี ที่พบซีสต์พยาธิตืดหมูกระจายเต็มตัว มาโรงพยาบาลด้วยอาการปวดศีรษะอาเจียน ชักและประสาทสัมผัสที่เปลี่ยนแปลง โดยระบุว่า พบซีสต์พยาธิตืดหมูกระจายเต็มตัวเลย จากภาพที่แสดงจะเห็นว่ามีจุดสีขาวๆ ซึ่งเป็นระยะตัวอ่อน cysticercus ของพยาธิตืดหมู กระจายเต็มไปหมด
โดยแพทย์ตรวจ MRI พบซีสต์จำนวนมากในเนื้อเยื่อสมอง ศีรษะ กล้ามเนื้อ คอ ผนังหน้าอก ผนังหน้าท้อง กล้ามเนื้อข้างกระดูกสันหลัง สะโพก กระดูกเชิงกราน และกล้ามเนื้อแขนขา ต่อมาผู้ป่วยได้รับยาสเตียรอยด์และยากันชักและมีการฟื้นตัวดีขึ้น ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น disseminated cysticercosis ส่วนสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เกิดจากการกินไข่พยาธิที่ปนเปื้อนในผัก ผลไม้ น้ำ หรือดินที่ติดมากับมือแล้วไม่สะอาด
ต่อมาทางเพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เกิดจากการกินไข่พยาธิที่ปนเปื้อนในผัก ผลไม้ น้ำ หรือดินที่ติดมากับมือแล้วไม่สะอาดหรือมีพยาธิอาศัยอยู่ในลำไส้อยู่แล้ว ต่อมาเกิดการขย้อนปล้องสุกของพยาธิกลับเข้าไปในกระเพาะอาหาร ซึ่งในปล้องสุกจะมีไข่พยาธิเต็มไปหมด เทียบเท่ากับการกินไข่พยาธิเข้าไปมหาศาล ทำให้มันไปกระจายเป็นซีสต์ทั่วร่างกาย โดยย้ำว่า ควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ รวมถึงล้างผักให้สะอาดและอย่ากินหมูดิบ
อย่างไรก็ตาม จากกรณีข้างต้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ สอนใจคนชอบกินดิบได้เป็นอย่างดี รวมถึงเราไม่ควรละเลยหรือประมาทกับการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ ของการใช้ชีวิตประจำวัน บางครั้งความอร่อยของรสชาติอาหาร หรือความขี้เกียจล้างมือ ไม่ใส่ใจในสุขอนามัยของตัวเรา อาจนำภัยมาสู่ตัวเราเอง แบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้
เพราะชีวิตหนึ่ง เราเกิดมาแค่ครั้งเดียว ตายครั้งเดียว ถ้าเราเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ชีวิตของตัวเรา แค่นิดเดียวก็ทำให้เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ได้ยาวยิ่งขึ้นหลายสิบปี ในทางกลับกัน หากเราละเลยการใช้ชีวิต หรือคิดแค่สุขใจในวันนี้
แคร์แค่รสชาติของอาหารที่หอมหวาน แต่แฝงไปด้วยอันตราย กินไปแล้วเกิดโทษ ขี้เกียจล้างมือ รู้ว่ามันไม่ดีก็ยังฝืนทำ เพียงเท่านี้ก็เท่ากับว่าเรา ไม่รักตนเองทำให้ชีวิตสั้นลงแล้ว ชีวิตจะดีไม่ดี เราจะอยู่บนโลกนี้ได้นานหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่พฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเราล้วนๆ ไม่มีใครมาทำร้ายตัวเราได้ นอกจากเราตะทำร้ายตัวเราเอง
ขอบคุณเฟซบุ๊ก: PDRC ศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี,หมอแล็บแพนด้า