อนค.คือพรรคที่ใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือการเมืองมากที่สุด??? โดย ดร.เวทิน ชาติกุล

0

จากกรณีวันนี้(17ม.ค.63) นายปิยบุตร แสงกนกกุล  ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ระบุเนื้อหาทั้งหมดว่า

คดีอิลลูมินาติ คือข้อกล่าวหาว่าธนาธร ผม และพรรคอนาคตใหม่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

คุณณฐพร โตประยูร ผู้ร้อง ก็ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ และหากศาลสั่งยุบพรรคจริง ผมก็ไม่คิดว่าผมหรือคุณธนาธรและพลพรรคอนาคตใหม่จะได้รับผลร้ายอะไร เพราะพวกเราก็ยังคงเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป

แต่ผลร้ายจะเกิดขึ้นกับสังคมใน 3 ด้านใหญ่ๆ ก็คือ:

  1. การยุบพรรคอนาคตใหม่คือการทำลายความหวังและความฝันของคนไทยทั้งประเทศ ที่อยากเห็นการเมืองที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
  2. เกิดการแบ่งแยกกันของช่วงวัย ช่วงอายุของคนในสังคม หรือที่เรียกว่า “Clash of Generations” ที่จะแตกแยกขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นไปอีก
  3. และที่สำคัญที่สุด นี่จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เรานำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างศัตรูทางการเมือง คุณกำลังจะผลักไสกลุ่มคนจำนวนมากในสังคม ให้ไปอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถาบันพระมหากษัตริย์อบย่างนั้นหรือ??? นี่คืออันตรายที่คุณไม่รู้ตัว หรืออาจรู้แต่ไม่สนใจก็ไม่ทราบ

ฟังคลิปนี้จบแล้ว ก็ขอเชิญทุกท่านไปฟังการแถลงปิดคดีกันแบบเต็มๆ สดๆ จากปากผมได้ที่งาน Future is Now #อย่ากลัวอนาคต ในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ที่อาคาร SC3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

แล้วเจอกันครับ

.

ต่อมาล่าสุด ดร.เวทิน ชาติกุล ผู้อำนายการสถาบันทิศทางไทย ได้เขียนบทความตอบโต้ โดยชี้ถึงข้อเท็จจริงอีกด้านว่า

พรรคอนาคตใหม่คือพรรคที่ใช้สถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง​มากที่สุด

พอจะถูกยุบ​ พรรคอนาคตใหม่ก็รีบตีปิ๊ป​ บอกว่า​ มีคนจะใช้สถาบันฯเป็นเครื่องมือมาทำลายตน​ สร้างสังคมให้แตกแยกเป็นฝ่ายรักเจ้า​-ชังเจ้า

หุบปากเถอะครับ

เลิกพูดเถอะว่า มี​ฝ่ายอำนาจ​ใช้สถาบันฯเป็นเครื่องมือมาทำลายพวกคุณ​ วาทกรรมนี้มันเชย

และคนเขารู้ทันกันหมดแล้ว

พรรคอนาคตใหม่โดยเปลือกนอกไม่ได้คิดล้มล้าง​สถาบันฯแบบตรงๆ แต่ได้เอาสถาบันฯมา​”เล่น” การเมืองในแบบของตนเอง

ไม่ได้ทำแบบทักษิณและพรรคไทยรักษาชาติ​ทำ​

พรรคอนาคตใหม่รู้ดี…รู้ว่าสถาบันอยู่เหนือการเมือง​ แต่แสดงการท้าทายโดยอ้อม​ (เช่นปมถวายสัตย์​ แก้ม.1​ ไม่รับพรก.โอนกำลัง)​ รวมถึงให้เครือข่ายคนรุ่นใหม่​จงใจนำสถาบันมาแซะ(รูปรับปริญญา​ “ช่อ” กรณี​รูปมิบังควร “พิมพ์ชนก” ​ เพราะรู้ว่าสร้างความแตกแยกได้​ สร้างความโกรธเกลียดได้ และตัวเองได้ประโยชน์จากความแตกแยกนั้น

โดยสร้างวาทกรรม​ สร้างภาพให้สถาบันฯ​ กับฝ่ายอนุรักษ์นิยม​ เป็นผู้ร้ายในหลักประชาธิปไตย​ สถาบันฯ-ทหาร-ศาล​ กับระบบประชาธิปไตย​ไปด้วยกันไม่ได้

ทั้งหมดมาจากอนาคตใหม่และเครือข่ายนักวิชาการ​ อาจารย์​ ปฏิกษัตริย์นิยม​ ทั้งสิ้น​ ไม่มีใครอื่นทำ

ส่วนพรรคและแกนนำพรรคก็เล่นบทพระเอก​ เป็นผู้นำความหวัง​ จะมาปราบยุคเข็ญ​ ถูกกลั่นแกล้ง

สร้างคะแนนนิยม​ให้ตัวเอง

โดยจะรู้หรือไม่ก็ตาม​ การทำเช่นนี้ผลก็คือการเซาะกร่อนสถาบันพระมหากษัตริย์และรากฐานของประเทศให้อ่อนแอลง

หุบปาก​ ว่าใครจะใช้สถาบันฯเพื่อกลั่นแกล้งทำร้ายคุณ​  ทำสังคมไทยแตกแยก ก็เพราะนิทานเรื่องนี้พวกคุณนั่นแหละที่สร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น