ในรายการ “สนธิญาณ ชัด ครบ จบ จริง” โดย “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” ได้พูดคุย “สมชาย แสวงการ” สมาชิกวุฒิสภา ในประเด็น เปิดเบื้องลึกไทม์ไลน์ งบฟื้นฟู 4แสนล้านต้นเหตุโรคคอรัปชั่น ลุงตู่จะพังเพราะนักการเมือง
“สมชาย แสวงการ” ระบุว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา 5วัน ในเรื่องพ.ร.ก.เงินกู้ 1ล้านล้านผ่านสภาและอีก9แสนล้าน ซึ่งตรงนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะว่าให้แบงค์ชาติไปดูแล ซึ่งมีเงื่อนไขในการดูแลSME สถานบันการเงิน เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง
แต่สำหรับ1ล้านล้าน จุดแรกคือ5.55แสนล้าน เป็นการเยียวยาเกษตรกร ผู้ตกงาน ผู้มีอาชีพอิสระเดือนละ 5000 บาทจ่ายไปแล้ว 3.2 แสนล้านบาท เหลืออีก2แสนกว่าล้าน ซึ่งอยากฝากดู อย่าให้มีบัญชีผี และป้องกันไม่ให้เกิด เมื่อเกิดละลอกที่2 จะได้ช่วยดูแลได้ด้วย
“สมชาย แสวงการ” กล่าวต่อ จุดต่อไปที่มีปัญหาที่อยากฝากคือ ส่วนที่ 1งบ4.5หมื่นล้าน กระทรวงสาธารณสุข ไปจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ น้ำยาตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นต้น ซึ่งได้ช่วยดูแลมาอย่างดี แต่ว่าอย่าให้เกิดรอยช้ำด้วยการมีทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างเพราะมีจำนวนมาก ซึ่งงบในส่วนนี้ไปที่กระทรวงสาธารณะสุขโดยตรง ในการดูแลเงินต่างๆ อีกทั้งไม่ต้องมีคณะกรรมการกลั่นกรอง
ส่วนที่2 ที่มีคณะกรรมการ คือ งบ4แสนล้าน ตรงนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ ซึ่งมีอ.มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน เขียนให้มีกรรมาการ 11ท่าน ประกอบด้วย เลขาธิการสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำงานงานบริหารหนี้สาธารณะผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนไม่เกิน 5 คน
สำหรับโอกาสในการทุจริต ซึ่งงบประมาณแผ่นดิน โดยพ.ร.ก.เงินกู้ที่ใช้ มีตั้งแต่ มิยาซาวา ไทยเข้มแข็ง น้ำท่วม งบ3.5แสนล้าน และมาเรื่องนี้ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด ไม่ได้เข้ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแบบปกติเพราะฉะนั้นจะใช้วิธีการเฉพาะเจาะจงหรือพิเศษได้
ต้องเรียนว่าเวลาทำงบประมาณประจำปีของทุกปี อย่างปีที่แล้ว 3.3 ล้านล้าน ใช้เวลา ตั้งแต่สำนักงบพิจารณาผ่าน เขาก็จะเริ่มพิจารณาเลย ทั้งปี มาเข้าสภาเดือนมิ.ย.กว่าจะออกไปได้ก็ส.ค., ก.ย. เบ็ดเสร็จผ่านสภา 2สภาใช้เวลา 4เดือน แต่เรื่องนี้ไม่มีโครงการเลย “ตีเช็คเปล่า” ..“สมชาย แสวงการ” กล่าว
เมื่อจะให้เงินไปเยียวยา4แสนล้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้เม็ดเงินเม็ดใหญ่ เกือบเท่างบลงทุนของแต่ละปี แต่อย่าลืมว่าเงินนี้เป็นเงินกู้ ประชาชน67ล้านคนต้องใช้ในวันหน้าและมีดอกเบี้ย ทุกคนมีส่วนร่วมหมด แต่จะทำอย่างไรให้โครงการนี้มีประสิทธิภาพประสิทธิผล มีกระสุนยิงไปแล้วถูกเป้าหมด และไม่เกิดการทุจริต ตรงนี้จึงเกิดคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งจะต้องกลั่นกรองมาจากทั้งประเทศ จากอบต. มาอบจ. จากอำเภอมาจังหวัด ให้เวลาสั้นเกินไป
โดยระยะเวลาในไทม์ไลน์
- 27พ.ค. มีหนังสือด่วนที่สุด1544 จากกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นส่งด่วนที่สุดไปยังองค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศและทุกจังหวัด
- 28พ.ค. ลงประกาศให้ทราบทางเว้ปไซด์
- 28พ.ค. มีหนังสือจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรื่องการจัดทำข้อเสนอโครงการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและให้ดาวน์โหลดเอกสารตัวอย่างโครงการ
- 29พ.ค. บางจังหวัดเรียกประชุม
- 30-31พ.ค. 1-2มิ.ย. ให้กลับไปทำโครงการให้เสร็จเพื่อส่งจวให้ทันภายในวันที่2มิ.ย. 3-4จังหวัดทะยอยส่งกรมส่งกระทรวง
- 5มิ.ย. เอกสารถึงมือคณะกรรมการครบถ้วน
ไม่รู้ว่ากี่พันกี่หมื่นโครงการ ใช้เวลาทำภายใน7วัน มหัศจรรย์จริงๆ
ทั้งนี้”สมชาย แสวงการ” ระบุต่อว่า ถ้าเงินทั้งหมดส่งมา 4แสนล้านเลย หายแว๊บไปเลย ซึ่งไม่ถูกต้องเพราะแสดงว่าการทำความเห็นจากประชาคมที่เป็นความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ไม่ได้ถูกสะท้อนมา เนื่องจากเท่าที่ตรวจแล้วไม่มีการไปทำประชาคม เป็นการทำตามความต้องการของข้าราชการ หรือท้องถิ่น ส่งขึ้นมา วิธีการง่ายๆก็คือ เอาโครงการเก่ามาปัดฝุ่น แล้วตัดต่อพันธุกรรมในคอมพิวเตอร์ เปลี่ยดนิดเดียวให้เกี่ยวข้องกับโควิดให้หมด
ตนได้รับรองเรียนมา ทั้งจากเฟสบุ๊คและอินบ็อค เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่เอกสาร หนังสือของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หนังสือของสภาพัฒนฯเวลา ไทม์ไลน์ ตรงกัน ว่าเพิ่งบอกเมื่อวันที่ 27-29พ.ค. แล้วเร่งให้ส่งจังหวัดภายในวันที่ 2 มิ.ย. ส่งไฟล์ตามหลังให้ทันวันที่ 5 มิ.ย.
อย่างไรก็ตาม”สมชาย แสวงการ“ได้เสนอวิธีแก้ไข้ไว้ 3 ข้อคือ
1)ควรขยายเวลาการเสนอโครงการออกไป ล็อคแรกจะมาก่อน ก็นำมากองไว้ ไปมาอีก2-3เดือนแล้วมาดู หรือจะทำแบ่งเป็นเฟตๆ ซึ่งพ.ร.ก.นี้มีอายุอีกปีกว่า ถึงสิ้น ก.ย.64 ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องทำให้เร่งขนาดนี้ อดีตที่ผ่านมาเคยปรากฏแล้วหลายครั้งที่ทำตามความต้องการของราชการหรือนักการเมืองที่ไปผูกไว้กับผู้รับเหมาหัวคะแนน
2)คณะกรรมการชุดนี้ ท่านต้องพิจารณาให้รอบครอบเสนอมาเป็นพันเป็นหมื่นโครงการ อันไหนโครงการเก่าปัดฝุ่น ไม่เอา โครงการไหนระยะยาวให้ไปอยู่ในงบประมาณ64,65 โครงการไหนตัดต่อพันธุกรรรม ไม่ได้เรื่องก็อย่าไปเอา และตั้งรับฟังความคิดเห็นประชาชนด้วย
3)ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าไปอีก 4 คนที่เหลืออยู่ ขอให้มีตัวแทนจะภาคประชาสังคม เช่นองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น ของดร.มานะ นิมิตรมงคล หรือ อ.วิชา มหาคุณ แล้วจะเชื่อมโยงกับองค์การของประชาชนทั่วประเทศ ,ภาควิชาการ ซึ่งจะได้เครือข่ายมหาลัยทั่วประเทศ ,ตัวแทนสื่อมวลชน สมาคมสื่อต่างๆ ไปประชุมเลือก มา1คน ซึ่งจะทำให้เกิดเครือข่ายของสื่อมวลชนทั่วประเทศ และสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม SME มาประชุมเลือกผู้แทน ซึ่งจะเกิดเครือข่ายของสภาทั่วประเทศคอยตรวจสอบ
ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวเป็นข้อเสนอที่อยากจะเห็นนายกรัฐมนตรี นำพาการปฏิรูปประเทศต่อไปได้ ด้วยเกราะคุ้มกัน ที่จะทำให้ฝ่ายการเมือง ฝ่ายท้องถิ่น หรือฝ่ายที่อยากจะทุจริตไม่สามารถเข้ามาได้ เพระากรรมการทั้ง4จะเป็นผู้แทนของประชาชนในการบอกเหล่า ในการช่วยกันตรวจสอบ
อีกทั้งเม็ดเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินที่เราใช้ภาษีกู้มา และเกือบเท่างบลงทุนของทุกปี ถ้าเราทำสำเร็จ ประเทศไทยจะได้รับการเยียวยาฟื้นฟู จากโควิด ให้ก้าวข้าว ไม่ว่าจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาไปสู่ประเทศกำลังพัฒนา หรืออย่างน้อยที่สุดทำให้เศรษฐกิจที่ไม่ดีกลับมาฟื้นคืนได้ แต่ถ้าเม็ดเงินนี้ถูกคอรัปชันไป เศรษฐกิจจะถูกซ้ำ และตามมาด้วยวิกฤตศรัทธา จะให้การปฏิรูปประเทศไทย เสียของและเรื่องนี้สำคัญมาก