5 มิ.ย.63-“หฤทัย ม่วงบุญศรี” หรือ อุ๊ นักร้องชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า…
คุณปิยบุตรคะ ดิฉันเองก็เป็นบุคคลนึงที่ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษคุณ ที่กองบังคับการปราบปราม เรื่องจุดยืนและแนวความคิดทางการเมืองของคุณที่อาจจะเป็นภัยกับความมั่นคงของชาติ ที่ฟังดูอาจจะเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง เพราะการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคุณแสดงออกให้เห็นค่อนข้างชัดเจนว่า คุณต้องการปลี่ยนแปลงให้ฝ่ายการเมืองมีอำนาจเหนือสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งๆที่ประเทศไทยนั้นมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งมีความแตกต่างจากประเทศอื่นที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบของตัวเอง เช่นประเทศฝรั่งเศส ที่คุณปิยบุตรชอบอ้างเรื่องประชาธิปไตยต้นแบบ ทั้งๆที่ประเทศฝรั่งเศสก็ได้ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ มันเป็นเรื่องภายในสังคมของประเทศเค้า ซึ่งมีบริบทเรื่องราวทางการเมืองที่แตกต่างกันไป และก็ไม่มีอะไรมาพิสูจน์ได้ด้วยว่า การปกครองของฝรั่งเศสกับของไทย ใครจะมีการปกครองที่ดีกว่ากัน!
คุณปิยบุตร คุณเรียนมาจากตำราที่เขียนว่าการปกครองของฝรั่งเศสดีกว่าของไทยหรือคะ? ในตำราเรียนบอกเช่นนั้นหรือคะดิฉันสงสัย? แต่ดิฉันไม่เชื่อตำราของเค้าคะ?
ทำไมคุณคิดว่าการปกครองของฝรั่งเศสดีกว่าของไทย? หรือเป็นเพราะว่าคุณเห็นประเทศเค้าสวยงามยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยศิลปะโบราณวัตถุ และศิลปะโบราณสถาน และดิฉันอยากจะถามคุณว่า ใครเป็นคนสร้างละคะ? คำตอบคือสถาบันกษัตริย์ของฝรั่งเศสเป็นคนสร้างความงดงามและความยิ่งใหญ่ไว้คะ แต่ปัจจุบันนักการเมืองฝรั่งเศสเข้ามาเสวยสุข เค้ามาแทนที่สถาบันพระมหากษัตริย์โดยอ้างว่ามาจากอำนาจของประชาชน
แต่สุดท้ายแล้วมีความเสมอภาคในสังคมคนฝรั่งเศสไหมคะ? ทุกวันนี้ฝรั่งเศสก็ยังคงมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ มีคนจน คนนอนข้างถนน คนไร้บ้านมากเป็นอันดับโลก นี่หรือประชาธิปไตยต้นแบบที่คุณพยายามฝังหัวเด็ก ขายฝันและพูดแต่เรื่องสวยงามที่อยู่ในตำรา ดิฉันไม่ยอมคะที่จะให้คุณนำความคิดอะไรง่ายๆสวยหรูแต่เพียงเปลือกนอก มาหลอกเด็กเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย ซึ่งผลที่ตามมาคือความขัดแย้งของคนในชาติและคนรุ่นลูกของเราอาจจะได้รับผลกระทบ และพบกับชะตากรรมที่เลวร้ายเหมือนกับประเทศกัมพูชาในอดีต ที่เคยฆ่ากันตายเป็นล้านๆคน เพราะอุดมคติทางการเมืองที่อ้างแค่คำว่า”ความเท่าเทียม” แนวความคิดคุณมันอาจจะเป็นภัยคะ ดิฉันมองเห็นอนาคตได้เลยว่าจะมีแต่ความเกลียดชัง เพื่อแย่งชิงอำนาจ สุดท้ายคนไทยต้องสูญเสียอะไรบ้าง นึกภาพออกไหมคะ ความแตกแยกของคนในชาติ ที่ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ ประเทศไทยเราจะต้องไม่เป็นเช่นนั้นคะ
ดิฉันจึงต้องออกมาพูด ออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากคุณปิยบุตร และวันนี้ดิฉันจะขอถามคุณว่า ที่คุณออกมาโอดโอยว่าคุณถูกฟ้องร้องดำเนินคดีมากมาย คุณอ้างว่า เหมือนคุณถูกกลั่นแกล้ง เหมือนคุณถูกปิดปาก ไม่ให้แสดงออกทางความคิดนั้น คุณโดนฟ้องร้องคดีอะไรบ้างคะ?
1.เรื่องคุณด่าศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพราะพรรคไทยรักษาชาติเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ มาเป็นแคตดิเดตนายกฯ ซึ่งเป็นเรื่องมิบังควร ทั้งๆที่พรรคการเมืองไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งอาจทำให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์และอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องดำรงไว้ให้อยู่เหนือจากการเมือง เรื่องนี้ไม่เห็นจะเข้ายาก ทำไมคุณไม่เข้าใจ? คุณออกมาวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินของศาลจนคุณเป็นผู้ต้องหา ในคดีหมิ่นศาล นั้นก็เพราะว่า คุณทำตัวเอง ถ้าคุณเป็นตาสีตาสาวิพากษ์วิจารณ์ไปเถอะคะ ไม่มีใครรู้ไม่มีใครได้ยิน แต่นี่คุณเป็นเลขาธิการพรรคการเมือง ในขณะนั้นคือ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งบทบาทจากสถานภาพของคุณจะมีอิทธิพลกับคนในชาติที่เป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่ขาดความเข้าใจในคำตัดสินของศาลฯ เมื่อการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลเท่ากับความคิดคุณจะครอบงำคนให้ไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรมของไทย และถามว่าผิดไหมละคะ? ที่ทำให้คนในชาติเกลียดชังศาล ทั้งๆที่ศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินตามกฎหมายที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ และในเคสนี้กฎหมายไทยเขียนไว้ก่อนมีการเลือกตั้ง ที่พรรคการเมืองต้องศึกษากฎหมายก่อนจะลงเล่นการเมือง เพราะกฎหมายเค้ามีเหตุผลของเค้าอยู่!
2.อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ที่คุณไล่เค้าออกจากพรรค ตอนนั้นคุณให้ความเป็นธรรมกับเค้าหรือเปล่าคะ? ดิฉันจำได้ความคิดที่เป็นเผด็จการภายในพรรคของคุณ คุณไล่เค้าออกจากพรรค เหตุผลแค่เค้ามีความคิดเห็นต่างจากคุณเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้นเอง ตอนนั้นคุณเป็นเลขาธิการพรรค คุณพูดอะไรคนได้ยินทั้งประเทศ คุณประณามเค้าหาว่าเค้าสวนมติพรรค คำพูดของคุณทำให้เกิดกระแสเกลียดชังเค้า เค้าแทบเอาชีวิตไม่รอด ถูกข่มขู่คุกคาม ถูกเผาโลงศพสาบแช่ง เห็นไหมคะ? ว่าความคิดของคุณมันส่งผลกับคนจำนวนมาก ซึ่งนำมาแต่ความเกลียดชัง ซึ่งก็มีแต่กฎหมายเท่านั้นแหละที่เป็นที่พึ่ง และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเค้าเอง!
3. เรื่องที่คุณอ้างว่า ใช้กฎหมาย”ปิดปาก” ยุคนี้ไม่มีใครปิดปากใครได้หรอกคะ! นอกเสียจากคนโง่ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นแบบผิดๆ คนโง่ที่ให้ร้ายป้ายสีคนอื่นเค้าไปทั่ว จึงเป็นที่มาการถูกฟ้องร้องแบบถล่มทลาย! การฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทในวงการการเมืองไทย มีมาตั้งนานแล้วก่อนพวกเราเกิดอีก คุณไม่ทราบหรือคะ? และเหตุผลที่เค้ามีกฎหมายฉบับนี้ไว้ ก็เพื่อมิให้มีการใส่ร้ายป้ายสี นึกอยากจะพูดโจมตีใครก็ได้อย่างเหิมเกริม พูดให้คนอื่นเสียชื่อเสียงบิดเบือนกล่าวเท็จให้อีกฝ่ายได้รับความเกลียดชัง โอย! เหตุผลของกฎหมายข้อนี้มีตั้งเยอะแยะ คุณเป็นอาจารย์สอนกฎหมายคุณไม่ทราบเหตุผลของการมีกฎหมายหมิ่นประมาทได้อย่างไรเนี้ย ดิฉันงงมาก!
4.สุดท้ายเรื่องที่คุณไม่เคยฟ้องร้องหมิ่นประมาทใครเลย อันนั้นเป็นสิทธิ์ของคุณ และอีกอย่างคุณจะไปฟ้องร้องใครได้ละคะ ถ้าคนอื่นเค้าไม่ได้ใส่ร้ายคุณ เค้าอาจจะพูดเรื่องจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะซึ่งไม่ผิดกฎหมายคะ! คุณก็เลยฟ้องร้องเค้าไม่ได้! จริงไหมละคะ?