เปิดศักราช 2563 การเมืองไทยยังมีปัจจัย ตัวแปร สถานการณ์ที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ และอาจพลิกผันได้เสมอ อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคอนาคตใหม่ ต้องถือว่าใกล้บทอวสานเต็มทีแล้ว
1.ใกล้บทอวสาน
ชะตากรรมของพรรคอนาคตใหม่กำลังเดินเข้าใกล้ ห้วงลมหายใจสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวในรัฐสภา หรือ บนท้องถนน
2. น่าผิดหวัง อ่อนหัด สูญเปล่า
ในรัฐสภา ตลอดเกือบ 8 เดือนที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่ใช้เวลาที่เข้ามาในรัฐสภาไปอย่างน่าผิดหวัง และสูญเปล่า แม้การเข้ามาในรัฐสภาได้ถึง 80 ที่นั่งจะเพิ่มอำนาจความชอบธรรมให้กับการเคลื่อนไหวของพรรค แต่พรรคเหมือนตั้งใจจะใช้รัฐสภาได้แค่เป็น “เวทีจัดอีเว้นต์” เฉพาะกลุ่ม มากกว่าจะตั้งใจมาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างสำคัญ หรือ การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล(ที่เสียงปริ่มน้ำ)อย่างถึงลูกถึงคน หรือ การเปิดโปงการทุจริตของนักการเมืองฝากรัฐบาลอย่างจริงจัง
3. มัวแต่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ส่วนเรื่องที่เคลื่อนไหวต่อเนื่องยังเป็นเรื่องสนองอุดมการณ์ส่วนตัวของผู้บริหารพรรค นั่นคือ การใช้รัฐสภาและสถานะผู้แทน ท้าทาย สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเปิดเผย (เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ ม.1, การคัดค้าน พ.ร.ก.โอนย้ายกำลัง) ที่ทำแล้วไม่ส่งแรงกระเพื่อมทางบวกกลับมาเลย
4. แตะสถาบันฯจนพรรคแตก
ไม่นับการแตกหักในพรรคอย่างรุนแรงถึงขั้นขับไล่ส.ส.ออกจากพรรค ซึ่งบางส่วนไม่ยอมทำตามมติพรรคในเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันหลัก
5. ปิดประตูตาย แก้รัฐธรรมนูญ
ประมาณว่าการแก้รัฐธรรมนูญยังต้องอาศัยเวลา และใช่ว่าจะทำได้โดยง่าย ในเมื่อเงื่อนไขตาม ม.256 (ที่ว่าเอาไว้ด้วยวิธีการแก้รัฐธรรมนูญ ต้องผ่านเสียงเห็นชอบของ สว.และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล) อาจปิดประตูตายในการแก้รัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านที่จะเริ่มแก้ด้วยการแก้ ม.256 นี้ก่อนเลย (โดยเสนอให้มี สสร. = ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ)
6.ว่าแต่เขา อิเหนาผิดเอง
ความผิดพลาด สะเพร่าเผลอเรอ ไม่รอบคอบเรื่องข้อกฏหมายของพรรค (ทั้งเรื่อง “ลืม” โอนหุ้นสื่อ หรือ ปล่อยเงินกู้ให้พรรค) นำวิบากกรรมมาสู่พรรคเอง แม้จะมีความพยายามสร้างวาทกรรมโดนชนชั้นนำกลั่นแกล้งก็เป็นใบบัวที่ปิดกลิ่นเน่าไม่มิด
7. ดาบแรก ปลดตำแหน่ง ส.ส.
การถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ส.ส.ของธนาธร เป็นดาบแรก เท่านั้น ยังมีคดีอาญาอันเกี่ยวกับการสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จที่กำลังจะตามมา ที่หนักสุดคือ ตัดสิทธิ์ 20 ปี หมดอนาคตทางการเมือง(เบื้องหน้า)
8. ดาบสอง ยุบหนอ Ep1. คดีอิลูมินาติ
21 ม.ค.63 เป็นวันจันทร์ และเป็นไปได้ว่าอนาคตใหม่จะยังไม่ถูกด้วยข้อกล่าวหาที่เบาหวิวและไร้ข้อพิสูจน์ และการวินิจฉัยคดีนี้ถ้าเป็นคุณแก่ธนาธรก็จะหักล้างวาทกรรม “ถูกแทรกแซง” “มีใบสั่ง” หรือ “ลัทธิขุดรากถอนโคน” ไปโดยปริยาย
9. ดาบสาม ยุบหนอ Ep.2 คดีให้พรรคกู้เงิน
แม้ศาลรับเรื่องแล้ว(25 ธ.ค.62) แต่ยังไม่มีวันที่จะวินิจฉัยออกมา โดยคดีนี้มีมูลและมีโอกาสจะถูกยุบมากกว่าทั้งในแง่ข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย (โดยเฉพาะถ้าศาลจะนัดอ่านคำวินิจฉัยใน “วันพุธ”)
10. สติแตก ขู่เสียงสั่น “นองเลือด” เตรียม “จะพาคนไปตาย”???
การควบคุมอารมณ์และวุฒิภาวะไม่ได้ของธนาธร ทำให้เผลอหลุดปากออกมาว่าทางเลือกที่มีอยู่คือ ยินยอมแก้รัฐธรรมนูญกันดีๆ (โอกาสในการแก้รัฐธรรมนูญนั้นยากยิ่ง) หรือ นองเลือด โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่กล่าวออกมานั้นเหมือนบ่วงที่ผูกคอตัวเองว่า กำลังจะพาคนไปนองเลือด กำลังจะพาคนไปตาย (รู้ว่าจะต้องนองเลือด ยังจะนำคนออกมา)
อย่างไรก็ตาม การคุกคาม สถาบันฯ จะเปิดฉากแบบตรงไปตรงมามากขึ้น (“โพสต์ภาพมิบังควร” / “คนๆนั้น” / “เขา” / ขึ้นดอย ช่วยชาวม้ง”) เพื่อยุแหย่ให้ฝ่ายตรงข้ามโกรธแค้น สร้างภาพมวลชนขวาจัดที่คลุ้มคลั่งแบบเหตุการณ์ 6 ตุลา)
11. Gen Y จะไปม็อบ?
Flashmob ที่ skywalks อาจทำให้พรรคอนาคตใหม่คึกคักได้น้ำเป็นปลากระดี่ จนแตกแขนงออกมาเป็นอีเว้นต์วิ่งไล่ลุง (12 ม.ค.2563) 14 จังหวัด 6 ประเทศ แต่ต้องมาสะดุดหัวทิ่ม เพราะ กรณีโพสต์ไม่บังควร ของพิมพ์ชนก และ กรณี แท็กแล้วโดนเท และคำถามที่รอคำเฉลยว่า Gen.Y ที่เอาแต่ตามสบายใจกูจะมีน้ำอดน้ำทนไปกับม็อบได้นานเท่าไหร่
12 ยุบหนอ ม็อบหนอ
ถ้ามีม็อบ ก่อนศาลตัดสินยุบพรรค = กดดันศาล เอาคนรุ่นใหม่ออกมาปกป้องตัวเอง
ถ้ามียุบ ก่อนม็อบ = ไม่รับคำตัดสินของศาล เอาคนรุ่นใหม่ออกมาปกป้องตัวเอง
13. โอกาสที่ทักษิณรอมานาน
พลันที่ ธนาธร ออกหน้ามานำม็อบ Gen Y. คนที่ตีปีกระริกระรี้ที่สุดคือ ทักษิณ ซึ่งรอโอกาสนี้มานาน เพราะ
12.1. เวลาของทักษิณเหลืออีกไม่มาก รอไม่ได้
12.2. ทักษิณสั่งธนาธรไม่ได้ ธนาธรไม่ใช่ลูกน้อง
12.3. มีความพยายาม เย้าและยุ ให้ก่อม็อบ มาตลอด (ตั้งแต่เมื่อคราวไปรายงานตัวที่หน้ากองปราบฯ) แต่ไม่สำเร็จ ครั้งนี้เหมือนบอลหล่นมาเข้าทางตีน
ทักษิณที่หายเงียบไปหลายเดือน ก็กลับมาเคลื่อนไหวในโซเซียลมีเดียอีกครั้ง
13. ลงถนนเมื่อไหร่ สูญเสียการนำทันที
ฉายภาพไปที่เบื้องหลังม็อบที่ Skywalks ก็จะพบแกนนำ นปช. เต็มไปหมด (โดยเฉพาะสายฮาร์ดคอร์ที่เคยผ่านเลือดมานักต่อนักแล้ว) ตอกย้ำว่า แม้ธนาธรจะเคยอยู่ม็อบในปี 2553 แต่แกนนำอนาคตใหม่คนอื่นที่เป็นคนรุ่นใหม่ จะเป็น ไก่อ่อน ในสมรภูมิการเมืองบนท้องถนน คนในสังกัดอดีต นปช.อาจจะมาเหมือนกับสหายร่วมรบที่นายใหญ่ส่งมาช่วย แต่ในอีกด้านก็จะเข้ามากุมสภาพการนำมวลชนทั้งหมดเอาไว้ด้วยเช่นกัน ณ.ตอนนั้น ธนาธรและม็อบGenY ก็ไม่ต่างอะไรกับหุ่นเชิดไปแล้วในตอนนั้น
14. สร้าง brand แทนอนาคตใหม่ ทำได้ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด
แม้จะถูกยุบ และสามารถใช้ brand ใหม่ได้ แต่ ตามกฏหมาย brand อนาคตใหม่ จะเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด ส่วนการทำ brand ใหม่ในพื้นที่โซเซียลมีเดียนั้น ต้องทุ่มเงินไปอีกมหาศาล (ไม่นับว่าถ้า ธนาธร และผู้บริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย) แค่เงิน 191 ล้านยังต้องเป็นเรื่องให้กู้(เพราะอาจเสียดายตังค์) หน้าตักของธนาธร จะเหลืออีกกี่มากน้อย
15. ยุบสภา หรือ ยุบพรรค
ทางที่พอจะมีอนาคตที่สุดของพรรคอนาคตใหม่ ก็คือ พรรค(ร่วม)รัฐบาล ตกม้าตายเอง เพราะเสียงที่ปริ่มน้ำ และเสียงที่ไม่มีเอกภาพของรัฐบาล ถ้าโหวต กม.ไม่ผ่านสักฉบับ ก็จบเห่ ต้องยุบสภา เลือกตั้งกันใหม่ แต่ต้องเกิดขึ้นก่อนที่พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบ เพราะยุบเมื่อไหร่ พรรคอนาคตใหม่จะแตก มี “งูเห่า” ที่พร้อมจะเข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาล จนมีเสถียรภาพขึ้นมากกว่าเดิม
#ปอกเปลือก#ปอกให้เห็นความจริง