ชาติพันธุ์:เรื่องของคนพันธุ์อย่างธนาธร ที่คนไทยควรปลดแอก???

0

วิจารณ์ยับอีกครั้งสำหรับธนาธรเมื่อไปร่วมงานประเพณีวันปีใหม่ม้งที่ตาก แต่กลับฉวยโอกาสสร้างความรู้สึกแตกแยกทางสังคม?!? ปลุกปั้นเรื่องความไม่เท่าเทียมของชาติพันธุ์ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน!!!

ธนาธรไม่รู้หรือแสร้งไม่รู้ถึงความเป็นอยู่ของชาวม้ง เพราะพูดที่เกินเลยจากความเป็นจริงไปมาก!!! โดยมีคนรู้ทันออกมาตำหนิพร้อมข้อมูลข้อเท็จจริงอีกด้านที่เห็นแล้วยิ่งผิดหวังกับนักการเมืองรุ่นใหม่คนนี้จริงๆ!?!

“เพราะเราเชื่อในเรื่องคนเท่ากัน เราเป็นเพื่อนประเทศเดียวกัน เป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของผืนป่า เป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน

มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันต่อหน้ากฎหมาย พรรคอนาคตใหม่เห็นคุณค่าของทุกกลุ่มคนในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่ถูกภาครัฐละเลย กลุ่มคนที่รัฐมองว่าเป็นชนชั้นสอง กลุ่มคนที่ถูกกดขี่เอาเปรียบมายาวนาน”

นั่นคือคำพูดของนักการเมืองพันธุ์อย่างธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งหลังจากนั้นมีคนรู้ทัน-รู้จริงออกมาให้ข้อเท็จจริงที่สำคัญดังนี้

ดร.สมเกียรติ โอสถสภา แสดงความเห็นโดยมีใจความสำคัญระบุว่า  “ไปอยู่ไสมาท้าวถึงเว้าหว่าชาวม้งชาวดอยไร้การเหลียวแล บ่มีบ่อนเฮ็ดอยู่เฮ็ดกิน แหกตาเบิ่ง แถวแม่ริม โป่งแยง สะเมิง

กะมีแต่รีสอร์ทที่เจ้าของเป็นชนเผ่า รายได้มื้อหนึ่งหลักหมื่นหลันแสนบาท รวยกว่าคนพื้นราบกะคนเทิงดอยนั่นล่ะ ดินเทิงดอยที่มันหัวล้านกะของคนเทิงดอยทั้งนั้นคนร้อยไร่พันไร่ มึงไปอยู่ไสมา บักฮูขี้

ขณะเพจ”ปราชญ์ สามสี” ชี้ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ พรรคการเมืองนี้ เคยกระทำ ซึ่งเรื่องชาติพันธุ์ พร้อมเผยข้อมูลในอดีตชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ต้องอาศัยหลบอยู่ตามป่าเขา พวกเขาอยู่ได้โดยการปลูกฝิ่น เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์

แต่เพราะในหลวง ร.9 ที่ทรงเมตตา ทรงรับไว้เป็นคนไทยและดูแลเป็นอย่างดี และพระองค์ทรงเดินทางไปพบผู้นำชนกลุ่มน้อยด้วยพระองค์เองเพื่อช่วยเหลือ หลักฐานก็คือ เหรียญ ร.9 ที่มอบให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆ

ด้าน ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นำมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องหลายมติในเรื่องช่วยเหลือกลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่

มติ ครม. 7 ธ.ค.53 ให้ชนกลุ่มน้อยที่ราชการได้จัดทำทะเบียนประวัติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย ให้สถานะเป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย

มติ ครม. 7 ธ.ค.59 ให้บุตรของชนกลุ่มน้อยที่เกิดในไทยขอมีสัญชาติไทยได้ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ

มติ ครม. 23 มี.ค. 53 และ 20 เม.ย. 58 ให้สิทธิการรักษาพยาบาลชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์

ตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ ได้รับอนุมัติสัญชาติไทยแล้ว 2.58 แสนคน

เสืออากาศ 24/7 คอลัมนิสต์ที่อ้างว่าเป็นคนในกองทัพอากาศ เผยแพร่บทความผ่านเฟซบุ๊กวาสนา นาน่วม ช่วงหนึ่งไว้อย่างน่าสนใจ

ชาติพันธุ์ผู้เข้ามาหวังอาศัยใช้ชีวิต/บริโภคอุปโภคทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ของไทย แต่เพียงอย่างเดียวโดยมิเคยร่วมสร้างชาติ/มิเคยร่วมสร้างคุณประโยชน์ใดๆให้กับประเทศไทย เป็นเรื่องที่คนไทยเจ้าของแผ่นดินต้องคิดพิจารณา

ชาติพันธุ์กลุ่มนี้สมควรหรือไม่??? ที่จะมีสิทธิ์ครอบครองที่ดินบนแผ่นดินไทย

ม้งปัจจุบันไม่กี่หมื่นคนและอีก10กว่าล้านคนนอกเขตอาณา ต่างใคร่อยากจะเข้ามาครอบครองที่ดินในประเทศไทย

(https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/2754409494617491)

และความแหลมคมที่ทิ่มเอาธนาธรต้องหงายหลังกับคำถามคมแหลมของ รศ.ดร.แสงเทียน อยู่เถา นักวิชาการสถาบันทิศทางไทย ที่จั่วหัวไว้ว่า

อนาคตใหม่ กล้าบอกชาติพันธุ์หรือไม่ว่า ม.70 ในรัฐธรรมนูญ 60 ว่าไว้อย่างไร?

มาตรา 70 เขียนไว้ในหน้า 18 ของรัฐธรรมนูญ ระบุว่า

“รัฐพึงส่งเสริมและให้ความคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ให้มีสิทธิดํารงชีวิตในสังคมตามวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตดั้งเดิมตามความสมัครใจได้อย่างสงบสุข ไม่ถูกรบกวน

ทั้งนี้ เท่าที่ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ หรือสุขภาพอนามัย”

ซึ่งเป็นมาตราที่กำหนดไว้ใน หมวด 6 ว่าด้วย แนวนโยบายแห่งรัฐ

ชาติพันธุ์ ได้รับการยอมรับในประเทศของเรามาโดยตลอด มีการแก้ปัญหาในมิติต่างๆ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับชาติพันธุ์มาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้นักวิชาการสถาบันทิศทางไทย ยังได้นำบทความสำคัญซึ่งปรากฏดังตัวอย่างเรื่อง “ในหลวงกับชนกลุ่มน้อยในสยามประเทศ” ที่เรียบเรียงโดย ศรีศักร วัลลิโภดม มีความตอนหนึ่งว่า

…ทรงศึกษาให้เข้าใจคนที่ด้อยโอกาสเหล่านั้นในเรื่องการตั้งหลักแหล่งที่อยู่อาศัย และการทำมาหากินให้เป็นชุมชนทางเกษตรกรรม

ที่มีเศรษฐกิจแบบพอเพียงเป็นพื้นฐานในการดำรงอยู่ร่วมกันทางสังคม เป็นระบบเศรษฐกิจที่มุ่งให้คนในชุมชนช่วยตนเองแบบพึ่งพิงพึ่งพากัน โดยไม่ต้องเรียกร้องอะไรต่ออะไร จากการช่วยเหลือแบบประชานิยมของทางรัฐบาล…

(ศรีศักร วัลลิโภดม, ๑๙ ต.ค. ๒๕๕๙ อ้างในมูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ lek-prapai.org)

(https://thaimoveinstitute.com/2019/12/31/อนาคตใหม่-กล้าบอกชาติพั/)

และยิ่งชัดเจนเมื่อคอลัมนิสต์แห่งนสพ.ไทยโพสต์ อย่างเปลว สีเงิน ได้นำเนื้อหาของนักวิชาการสถาบันทิศทางไทย มาเผยแพร่ไว้ทั้งหมด โดยตั้งหัวเรื่องว่า สังคมรู้ทัน วันตาย ก็มาถึง

โดยบางช่วงระบุไว้ว่า  เปิดเฟซ พบ thaimove นำของขวัญปีใหม่ จาก”รศ.ดร.แสงเทียน อยู่เถา” คณะสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ม.มหิดล และนักวิชาการสถาบันทิศทางไทย มามอบให้คนไทยทุกคน

ของขวัญชิ้นนี้ มีชื่อว่า………”อนาคตใหม่ กล้าบอกชาติพันธุ์หรือไม่ว่า ม.70 ในรัฐธรรมนูญ 60 ว่าไว้อย่างไร?”

จากนั้นเปลว สีเงิน ก็ลงรายละเอียดของเนื้อหาบทความของ ดร.แสงเทียน ทั้งหมดในคอลัมน์ ก่อนที่จะปิดท้ายความเห็นของตนเองไว้ว่า

กรรม ไม่มีปีเก่า-ปีใหม่ ไม่ว่าใคร เมื่อเหิมเกริมก้าวล่วงถึงเขตแดน “พระมหากรุณาธิคุณ”  ไม่มีใครทำอะไร

แต่ที่ทำ ๕..๔..๓..๒..๑ เตรียมนับได้เลย!

(https://www.thaipost.net/main/detail/53604)

นั่นคือหลากหลายความคิดเห็นที่มีต่อประเด็นม้ง ที่ธนาธร พยายามลากเอาปั่นกระแสในเรื่องชาติพันธุ์ให้ดูเหมือนว่า ถูกกดขี่ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากประเทศไทย ??? ซึ่งความจริงอีกด้านก็ตามที่นำมาข้างต้นแล้ว

แบบนี้สมควรหรือไม่ที่คนไทยบางคน-บางกลุ่มควรจะต้องปลดแอกออกมาจากนักการเมืองรุ่นใหม่อย่างธนาธร  เพราะพฤติกรรม การกระทำ คำพูดอันตรายยิ่ง???

 

#ปอกเปลือก#ปอกให้เห็นความจริง