จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ไสว รุยันต์ ซึ่งเป็นสื่อมวลชนประจำจังหวัดพัทลุง โพสต์ข้อความระบุว่า “หนักไปนะ ร้องมาก็ว่ากันไป ตำรวจเมืองพัทลุงตั้งจุดตรวจก่อนเคอร์ฟิว เรียกจับแม่ค้าขายของกลับจากตลาดนัด เรียกเงิน 80,000 บาท บริเวณทางเข้าบ้านเขาแดง ต่อรองเหลือ 10,000 บาท จริงเท็จแค่ไหน ผู้การพัทลุงลองตรวจสอบบ้าง
โดย น.ส.หนึ่ง (นามสมมติ) แม่ค้าขายของทะเลสด ได้เข้ามาร้องเรียนกับสื่อมวลชน พร้อมเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนขอความเป็นธรรม หลังจากโดนจับกุมขณะกลับจากเดินทางไปรับกุ้ง หอย ปู และ ปลาทู ในพื้นที่ จ.ตรัง และเดินทางกลับบ้านที่ จ.พัทลุง ในช่วงเคอร์ฟิวซึ่งโดนจับในพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง
ทั้งนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ไสว รุยันต์ ยังโพสต์ข้อความอีกว่า สลิบโอนเงิน อีก 5-6 ราย ส่งมาให้ตรวจสอบ การโอนเงินเข้าบัญชี ตำรวจดับเบิ้ลเปร.. ขอกันดื้อ ๆ อ้างหมายจับยาเสพติดหรือภาษาในวงการว่าเลี้ยงหมายจับ เรียกรับเงิน แม้เพียง 1,000 บาท ก็เอา บอกว่าจะเอาไปกินข้าวหลังทำงาน ยังเพตำรวจชุดนี้ ระดับสารวัต ถึงนายดาบ รวมถึงนักเรียนนายสิบฝึกงาน ที่อยู่รวมกันในชุด บอกค้นยาเสพติด แต่ไม่พบไร ขอ 1,000 บาท ค่าค้น…แลที่มันทำ….ช่วยดันให้สุด ๆ ในสังคมโซเซียล อย่าให้มีจุดยืนในสังคมกับความอัปปรีย์ ที่ไม่มีวันสิ้นสุด…..##ใครหลักฐานโอนเงินให้ตำรวจชุดนี้อีกส่งมาได้ครับ…##
ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เข้ามาคอมเมนต์ว่า มันคงอดแหละพี่ เห็นใจมันค่ะ ยุคนี้เป็นยุคคสช.ตำรวจทำงานลำบาก เงินไม่สะพัดมือเหมือนสมัยทักษิณ ก็ต้องหากินจากชาวบ้าน ปูนาตาดำ ๆ หน่วยงานรัฐเพื่อปชช .หรือรังแกปชช.ซิไม่ว่า บ้างก็เข้ามาคอเมนต์ว่า อย่าว่าแต่รีดไถ่ มันเปิดขายบุหรี่เถื่อนกันเป็นทีม อย่าให้ตาสีตาสาขายน่ะ มันแจ้งจับหมด เลือกแต่พวกมัน ขายกันแบบสบายใจเลย##เพราะกากีอยู่เบื้องหลังไง
อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยการนำชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏบนสลิปการโอนเงินไปตรวจสอบ จนพบว่าเป็นใคร ทำให้มีการแชร์ภาพดังกล่าวในโซเชียลให้เพื่อน ๆ ชาวเน็ตได้เห็น
ด้าน พล.ต.ต.กฤษดา แก้วจันดี ผบก.ภจว.พัทลุง กล่าวว่า ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงชั้นต้นจะแล้วเสร็จในวันนี้ และยอมรับว่ากรณีนี้มีมูลความจริง เบื้องต้นจึงสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดระดับชั้นประทวนที่ถูกพาดพิงถึงให้ไปปฏิบัติหน้าที่เวรยามที่ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจำนวน 1 ชุด เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเฉพาะหลักฐานการโอนเงินรวมทัั้งการดื่มเหล้าขณะปฏิบัติหน้าที่ หากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงผู้ใดจะเอาผิดทางวินัยและอาญา คาดว่าภายใน 7 วันจะได้ข้อสรุปในเรื่องนี้
ที่มา : ไสว รุยันต์