2544 ถึง 2563 ..19 ปี บทเรียน”ทักษิณ” ถึง “ธนาธร”
ฉัตรชัยภู่โคกหวาย
“ อำนาจเงินทอง ไม่ได้มาจากการหลั่งเลือด หยาดเหงื่อ คราบน้ำตา ของตนเอง หรือคนในครอบครัวแต่มาจากประชาชนที่หลงเชื่อ “
30 ธันวาคม 2562 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนสุดท้องของ คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษผู้หลบหนีคำพิพากษาจำคุกได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @ingshin21 เป็นภาพที่คุณทักษิณเดินลงจากบันไดเข้าโผกอด น.ส.แพทองธาร ระหว่างการพบกันที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ โดยมีสามี คือคุณปิฎก สุขสวัสดิ์ หรือ ปอ สามี น.ส.แพทองธารเป็นผู้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ให้
นี่คือภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้กับนักการเมือง ข้าราชการ บุคคล ตลอดญาติมิตร ของพวกเขาที่เคยรับใช้ ใกล้ชิด และ/หรือดูเหมือนว่าจะมีความสนิทสนมกับคุณทักษิณหรือตระกูลชินวัตร
หากถามว่าทำไม??? ถึงบอกว่าภาพที่ลูกโอบกอดบิดาอันเป็นที่รักนั้น สะเทือนใจกับคนที่กล่าวถึงตรงไหน ???? ความสะเทือนใจที่นึกถึงนั้นไม่ใช่เรื่องความรักที่เขาทั้ง 2 มีต่อกันและยังมีโอกาสในการแสดงความรัก ไม่ว่าจะเป็นการโอบกอด การไปเที่ยวด้วยกัน ทานข้าวด้วยกัน และ อื่นๆ ได้ ตลอดเวลาที่ต้องการ
แต่ในอีกมุมหนึ่งของความจริง มีอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นอดีตรัฐมนตรี อดีตนักการเมือง ข้าราชการไปจนถึงชาวบ้าน ที่เคยรักและ/หรือชื่นชอบ คุณทักษิณ หรือ ตระกูลชินวัตร ต้องตกอยู่ในสภาพที่ถูกจองจำหรือแม้กระทั่งเสียชีวิตโดยที่จะไม่มีโอกาสได้ กอดคนที่เขารักได้อีก ไม่ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งหรือตลอดไป เพราะการกระทำความผิดเนื่องจากคุณทักษิณ หรือครอบครัวทั้งทางตรงและทางอ้อมครับ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 ศาลฎีกา มีคำตัดสินให้ 1. นางเบญจา อดีต รมช.คลังและอดีตรอง อธ.สรรพากร , 2. น.ส.จำรัส , 3. น.ส.โมรีรัตน์ และ4. นายกริช อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย 5. น.ส.ปราณีคนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน
ถูกลงโทษ จำคุกคน ละ 2 ปี ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157
**** เพื่อไม่ให้นายพานทองแท้ บุตรชายคนโต และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวคนที่ 2 ของนายทักษิณ ต้องเสียภาษีอากรหรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสียและได้รับประโยชน์ที่มิควร โดยชอบด้วยกฎหมาย จากการที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549
ทันที เมือสิ้นเสียง อ่านคำพิพากษาของ ศาลฎีกา
“จำเลยทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งขรึมและเสียใจโดยญาติได้รีบเข้าไปโอบกอดให้กำลังใจ จำเลยบางคนพยายามกลั้นน้ำตาและกล่าวขอบคุณเสียงเครือ ขณะที่จำเลยที่ 5 ที่มีอายุมากและมีอาการป่วย ญาติก็แสดงความกังวลใจเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งได้มีการนำยารักษาโรคประจำตัวมาให้ด้วย “
ถามว่าแบบนี้ สะเทือนใจหรือไม่ครับ ??? ในขณะที่ตัวคุณทักษิณและครอบครัวยังคงใช้ชีวิต อย่างหรูหรา สะดวกสะบาย ในทุกเรื่อง ซึ่งทรัพย์สินเงินทองที่สร้างความสะดวกสบายให้นั้น ถึงแม้ว่าคุณทักษิณและครอบครัว จะไม่นึกถึงหรือไม่สนใจ … แต่พวกเราควรตระหนักรู้ว่าจริงๆ คุณทักษิณ เป็น อย่างไร ???? และ ถ้า จำเลยทั้ง 5 นั้น เป็น พ่อ แม่ ญาติพี่น้องของใคร คนหนึ่ง คุณจะยังบอก ว่าคุณทักษิณ เป็นคนดี อีกหรือ ไม่ ???
จากบทเรียนนี้ยังฝากไปถึง คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคนที่ชื่นชอบหรือหลงเชื่อในตัวของเขาว่าเมื่อไหร่ ที่คุณธนาธรพาพวกคุณก้าวข้ามเส้นของความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี และข้อกฎหมาย สิ่งที่พวกคุณต้องระลึกอยู่เสมอว่าคุณกำลังตกเป็นเหยื่อและต้องเผชิญหน้ากับคนอีกกลุ่มหนึ่งและการบังคับใช้กฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้จะไม่มีพ่อแม่ลูกเมีย และ/หรือ ญาติพี่น้อง ของคุณธนาธรอยู่ร่วมด้วยอย่างแน่นอน เหมือนกับคุณทักษิณในอดีต
“ อำนาจเงินทอง ไม่ได้มาจากการหลั่งเลือด หยาดเหงื่อ คราบน้ำตาของตนเองหรือคนในครอบครัว แต่มาจากประชาชนที่หลงเชื่อ “