ยังจำกันได้ไหม จากกรณี นายเจนภพ วีรพร นักธุรกิจชื่อดัง วัย 41 ปี ขับรถเบนซ์ ไปชนรถยนต์ฟอร์ด จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้นิสิต ปริญญาโท 2 คน เสียชีวิตจมกองเพลิง กลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2559
ล่าสุด ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่อัยการอยุธยา และนายไพบูลย์ ถาวร กับพวกรวม 4 คน เป็นโจทก์ร่วมฟ้องร้อง นายเจนภพ วีรพร จำเลย ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย นิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดนไฟคลอกเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2559
ศาลเห็นว่าแม้จำเลยขอลงโทษสถานเบา โดยให้เหตุผลว่าตนได้จบการศึกษาปริญญาโทจากต่างประเทศ และเป็นกรรมการบริษัทต่างๆ ซึ่งตนทำประโยชน์แก่สังคม รวมถึงยังได้บวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต นาน 2 เดือน 3 สัปดาห์ ถือไม่เป็นเหตุบรรเทาโทษ เห็นว่าการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาโทษดังกล่าว เหมาะสมแล้วจึงพิพากษายืน
โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นเคยมีพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาโจทก์และโจทก์ร่วมที่ 3 และ 4 ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพิ่มโทษจำคุกจำเลย
จากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 ลงโทษจำคุกจำเลย โดยแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้เพิ่มโทษตามที่โจทก์และโจทก์ร่วมที่ 3 และ 4 อุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนขับรถ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุก 6 ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้บางส่วน เหลือลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปี ไม่รอลงอาญา
ขอบคุณข้อมูล : tnews
