ประธานาธิบดี Valdimir Putin กล่าวว่า ขีปนาวุธนิวเคลียนี้ สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วมากกว่าเสียงถึง 20 เท่า และนี่แหละทำให้รัซเซียนำหน้ากว่าชาตอื่นๆ มันยังมีระบบติดตาม ที่ทำให้ยากต่อการต่อกรด้วย “เราไม่ใช่ประเทศเดียวที่ผลิตอาวุธที่มีความไวกว่าเสียง ยังมีขาติอื่นๆที่กำลังแข่งกับเรา” เขากล่าวเพิ่มเติม เขาเสริมว่า Avangard และอาวุธอื่นๆที่สร้างขึ้นนั้น เหมือนกับอุกาบาติ และ ลูกไฟยักษ์ ในเดือนธันวาคม 2018 มีการทดสอบอาวุท และยิ่งเข้าไปที่เป้าหมายที่ห่างออกไปประมาณ 6000 กิโลเมตร
“Avangard เป็นอาวุธที่ไม่มีระบบใดที่สามารถป้องกันได้” เขาพูดหลังจากากรทดสอบเสร็จ
Avangard เป็นอาวุธนิวเคลียที่สามารถติดอาวุธนิวเคลียที่มีมากถึง 2 megatons นอกจากนี้ กองกำลังรัซเซีย ยังปล่อยวีดีโอของระบบอาวุธ Avangard แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธกลับสงสัยประสิทธิภาพของมัน นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะสหรัฐเอง ก็มีอาวุธดังกล่าวนี้ ที่ใช้ในการทดสอบในปี 2014 เช่นกัน ในวันที่ 26 พฤษจิกายน รัซเซียให้ผู้เชี่ยวชาญของ สหรัฐเข้ามาดู Avangard ภายใต้กฎ 2010 new star treaty ซึ่งเป็นสัญญาเกี่ยวกับการยิงนิวเคลีย โดยสัญญา Star accord นั้นจะหมดอายุในเดือนกุมพาพันธ์ ปี 2021 โดยนี่เป็นอาวุธนิวเคลียที่ใช้งานร่วมกันระหว่างรัซเซียและสหรัฐสิงหาคมปีนี้สหรัฐถอนตัวจาก INF และ ทรัมป์ต้องการจะเซ็นสัญญาใหม่โดยมีทั้งรัสเซีย และ จีนร่วมด้วย
มันยากที่จะบอกว่าอาวุธชนิดนี้เป็นชิ้นแรกๆที่เข้ามาใช้เหมือนที่พูดไว้แต่สิ่งที่ ปูตินพูดนั้นอาจจะจริง เพราะตอนนี้เหมือนรัซเซียจะนำในเรื่องอาวุธดังกล่าว จีนก็กำลังพัฒนาเช่นกัน ในขณะที่สหรัฐล้าหลังอยู่นิดหนึ่ง จรวดนี้เคลื่อที่เร็วกว่าเสียง 5 เท่า โดยการเคลื่อนที่จองมันนั้น ต้องอาศัยเครื่องยนต์ในการนำพามันไปในอากาศ จากนั้นค่อยแยกออกจากกัน แล้วค่อยโดจมตีเป้าหมาย มันเป็นระบบ Boost glide ระบบนี้จะยิงเหมือนกับขีปนาวุธระยะไกลทั่วๆไป แต่แทนที่จะยิงสูงขึ้นในชั้นบรรยากาศแล้วค่อยกลับลงมี่พื้นโลก จรวดดังกล่าว แยกตัวตั้งแต่อยู่ในชั้นบรรยากาศเลย จึงมีความเร็วมากกว่าเป็นปกติที่จรวดชนิดนี้จะเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ความแม่นยำในการโยมตีเป้าหมาย นี่เป็นปัญหาใหญ่ในการทำระบบป้องกันขีปนาวุธ ซึ่งถ้ามันเป็นตามที่รัซเซียพูดนั้น นี่เป็นขีปนาวุธที่แทบจะไม่สามารถป้องกันได้เลย
การประกาศให้โลกรู้ถึงการพัฒนาขีปนาวุธ avangard อาจเป็นสาเหตุให้มีการแข่งขันการสร้างขีปนาวุธอีกครั้งแน่นอนว่า ปูตินกำลังโฟกัสไปที่การพัฒนาอาวุธนิวเคลีย และเป็นการแข่งขันการมีอำนาจอีกครั้งบางก็วิเคราะห์ว่านี่อาจเป็นสิ่งที่รัซเซียคาดไว้ให้ทางสหรัฐเริ่มที่จะสนใจทำระบบป้องกันอาวุธนี่อาจะเป็นว่าสัญญาสงบศึกของสงครามเย็นอาจจะจบลงและเกิดสงครามอาวุทนิวเคลียขึ้นมาอีกก็เป็นได้่