อดีตคณบดีมธ.ปลุกต้องสู้เหมือนฮ่องกง!สมเพชคนกลัวโควิด-เห็นดีต่อพรก.ฉุกเฉินยอมถูกกดหัว

0

จากที่รัฐบาลใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไปอีกหนึ่งเดือนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ทำให้มีทั้งเสียงหนุนและคัดค้าน โดยเฉพาะฝ่ายที่ต่อต้านมีการเรียกร้องให้ยกเลิก โดยอ้างว่าไม่เกี่ยวกับการคุมโรคแต่ใช้เพื่อจำกัดเสรีภาพนั้น

ทั้งนี้นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และอดีตผู้สมัครส.ส.บัญชรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เคอร์ฟิว ลงในเฟซบุ๊กว่า

“น่าสมเพชคนส่วนใหญ่ที่กลัวโควิด จนยอมถูกกดหัวไปหมดทุกเรื่อง ทั้งๆที่นโยบายและมาตรการต่างๆที่ออกมาหลายอย่างไม่ใช่เพื่อควบคุมโรค แต่เป็นการลิดรอนเสรีภาพ ของตนเองโดยไร้ความชอบธรรมทั้งสิ้น”

อย่างไรก็ตามเมื่อข้อความของอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เผยแพร่ออกไปก็ปรากฏว่ามีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีบางคอมเมนต์ที่นายพนัส เข้ามาตอบด้วย เช่น

พอเปิดร้านเขามาจับทำไง

Panat Tasneeyanond สู้กับอำนาจตัวคนเดียวแบบนั้น สู้มันไม่ได้หรอกครับ ผมต้องการสื่อเพียงว่าคนไทยเราไม่ควรยอมสยบกับอำนาจมากเกินไป ควรลุกขึ้นมาสู้บ้าง เหมือนคนในบ้านเมืองอื่นเขา เช่น คนฮ่องกง

เข้า7 ตอนนั้นไม่มีเด็กยืนตรวจ ดีใจที่ไม่ต้องคิดชื่อบ้าบอไว้เซ็น ตอนรอจ่ายตังค์ โคตรขำบางคนจ่ายเสร็จเดินไปยื่นหน้าขอวัดอุณหฯ บางคนเดินไปเซ็นขื่อ บางคนเปิดมือถือสแกนก่อนออก ยังกับได้ปฏิบัติหน้าที่พลเมืองดี..อยากสมเพชดัง ๆ

Panat Tasneeyanond ที่น่าสมเพชยิ่งกว่า คือพวกที่เห็นดีเห็นงามกับการต่ออายุสภาวะฉุกเฉินกับเคอร์ฟิว ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับการควบคุมโรคเลย

ที่มา : เฟซบุ๊กPanat Tasneeyanond