“แมทธิว ดีน” วอนอย่ารังเกียจ-บูลลี่คนหายป่วยโควิด แค่ติดไวรัสก็แย่พอแล้ว

0

จากกรณีที่ แมทธิว ดีน พิธีกรนักแสดง และ ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ที่ทั้งคู่ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 18 เม.ย.2563 ลิเดีย เผยแพร่ข่าวดีผ่านอินสตาแกรมว่า ทั้ง 2 คน ปลอดภัยได้กลับบ้าน

ล่าสุด รายการโหนกระแสทางช่อง 3 HD ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เชิญ แมทธิว ซึ่งเป็นคนแรก ๆ ที่ออกมาประกาศว่าตัวเองติดเชื้อโควิด-19 มาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว

หนุ่ม กรรชัย เริ่มคำถามว่า พอได้ยินใช่ไหมว่าคนที่หายจากโควิด-19 จะถูกสังคมรังเกียจ?

แมทธิว : ได้ยินครับ แม้กระทั่งคนยังไม่ติดแต่มีข่าวลือก็พูดกันไปเรื่อย โดนบูลลี่ไปก็น่าสงสารมาก กับการบูลลี่ไม่ให้เข้าหมู่บ้าน หรือละแวกที่คนอยู่ ผมก็เข้าใจนะ เอาจริง ๆ โควิดมันน่ากลัว คนที่เป็นก็มีความทรมาน ความเครียด ลำบาก แต่คนหายแล้วก็คือหาย ไม่มีติดอีก ไม่งั้นคุณหมอไม่ให้กลับ แม้กลับบ้านไปแล้วคุณหมอก็สั่งให้ใส่หน้ากากอีก 2-3 สัปดาห์ ยิ่งมีเด็กผู้ใหญ่ในบ้านก็ให้ล้างมือกันไป ใส่หน้ากาก

พิธีกรถามอีกว่า ความรู้สึกวันแรกที่ติดทำไมถึงออกมาประกาศ?

แมทธิว : ช็อกที่สุดในชีวิต เพราะก่อนหน้านั้นไม่คิดว่าตัวเองติด คนรอบข้างก็ไม่คิดว่าผมติด เพราะตอนนั้นคนไทยเป็นไม่ถึง 100 คน คนทั่วประเทศมี 70 ล้านคน ฉุกคิดว่าผมจะเป็น 1 ใน 70 ล้านเลยเหรอ หมอบอกให้ทำใจนะ คุณมีโอกาสเป็นโควิด เพราะเรื่องเดียวที่ทำให้อาการทรุดได้แบบนี้ อาการมันแย่จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์จากคุณหมอว่าติดโควิด-19 นะ ระหว่างนั้นคิดว่าจะทำอะไรดี ผมนึกถึงว่าที่ผ่านมาเราเจอคนเยอะมาก เราทำงานที่ช่อง 3 ไปหลายที่มาก ต้องให้คนพวกนี้เขารับรู้ว่าเราติด เผื่อเขาอาจจะโดนไปด้วย เผื่อเขาต้องไปป้องกัน เผื่อเขาเจอลูกเจอผู้ใหญ่ สิ่งแรกคือ ทั้งโทร ทั้งไดเร็กข้อความหาคนรอบข้าง ทำยังไงก็ได้ให้คนรู้มากที่สุด

พอประกาศมันกลายเป็นสร้างแรงกระเพื่อมให้คนไทยว่าเรื่องนี้มาถึงตัวเราแล้ว?

แมทธิว : แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ รู้ว่ามี แต่มันดูไกลตัวเหลือเกิน ผมทำงานช่วงนั้นก็ไม่ค่อยใส่หน้ากาก พกเจลไปเราใส่หน้ากากจะทำงานลำบาก

จิตตกไหม?

แมทธิว : ตอนนั้นยังไม่สุด มันลงไปด้วยความเครียด กังวล ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าสเต็ปต่อไปจะเป็นยังไง เราจะไปโรงพยาบาลไหน เราจะได้กลับบ้านเจอลูกอีกทีเมื่อไหร่ ยังไม่เครียดสุด ๆ แต่มันกังวล มันตื่นเต้นไปหมด ตอนนั้นคนก็โทรมาเป็นร้อย ๆ สาย รับบ้าง ไม่รับบ้าง ไม่รู้จะพูดยังไง บางคนถามว่าเป็นจริงหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้เราไม่ล้อเล่นหรอก เราอยากให้คนระมัดระวัง ไม่โดนเหมือนเรา ก็เป็นจุดเริ่มต้นของคนไทยที่เริ่มเห็นว่าเป็นเรื่องจริงและต้องระมัดระวังให้มากขึ้น

คุณรักษานานมาก?

แมทธิว : จริง ๆ การรักษา 20-30 วัน เป็นเรื่องปกติของโควิด-19

ตอนแรกเชื้อลงปอด?

แมทธิว : ตอนแรกคิดว่าน่าจะหายเองด้วยการไม่กินยา เพราะเราแข็งแรง ออกกำลังกายอยู่แล้ว แต่พอไข้กลับมาก็เห็นว่ามันลงปอดจริง ๆ ก็ต้องกินยา พอกินยาครบก็ต้องเอกซเรย์เพิ่มเติม

คุณจะไม่เป็นอีกแล้ว?

แมทธิว : จากที่คุณหมอบอกทางเราหายแล้ว เรามีภูมิแล้ว ถ้ามันมาหาเราใหม่ ร่างกายเราจะมีภูมิพร้อมสู้กับมัน เราจะไม่ทรุดแล้ว แต่เฉพาะช่วงนี้นะ พอสักพักมันเปลี่ยนกลายพันธุ์ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมมีโอกาสเป็นใหม่

แปลว่าถ้าเชื้อกลายพันธุ์คุณอาจโดนอีก?

แมทธิว : ใช่ครับ ทุกคนมีโอกาสเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องระวังตัว เพราะพอเป็นแล้วมันไม่สนุก มันเป็นนาน มันเหนื่อย เสี่ยงกับชีวิต ยิ่งคนอายุมากมันน่ากลัว ช่วงที่เครียดกังวลที่สุดไม่ได้กลัวเรื่องสภาพร่างกายตัวเองเท่าไหร่ แต่กลัวคนที่บ้าน คนรอบข้าง

โดนรังเกียจไหม?

แมทธิว : ผมโชคดีอยู่ในบ้านที่มีความเข้าใจ และได้รับข้อมูลจริงจากเรา และแพทย์ เรากลัว เกรงใจคนในบ้านมากกว่า กลับไป 3 สัปดาห์ ยังไม่ถอดหน้ากาก กินข้าวนอกบ้านต้องถอดหน้ากากกิน จะกินน้ำต้องเดินออกไปนอกบ้านเพราะมีความเกรงใจ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำในช่วงแรก แต่ถ้าเขาได้รับความเข้าใจจากคนในหมู่บ้านหรือคนในครอบครัวจะทำให้จิตใจเขาแข็งแรงขึ้นมา

ออกนอกบ้านไปเจอคนอื่น ๆ เป็นไงบ้าง เขาเดินหนีมีไหม?

แมทธิว : คิดว่าคงมี ก็เข้าใจไม่ว่ากัน ถ้าอยู่ในระดับโอครับได้ แต่ถ้ามีการพูดหรือรังเกียจ เหมือนบูลลี่ ถึงจะเป็นการแซวเล่นก็มีผลต่อจิตใจ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ถ้าคุณหมอกล้าให้เขากลับมาบ้านแสดงว่าเขาหายแล้วแน่นอน คนที่หายแล้วและโดนบูลลี่ก็อยากให้ใจเย็นด้วย เราผ่านอะไรหนัก ๆ มาแล้ว อยากให้นิ่ง พยายามรับความเข้าใจว่าคนนี้เขาอาจไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา อาจกลัวและรู้ข้อมูลน้อย ก็ว่ากันไปตามข้อมูล มันต้องยอมรับว่าไม่ติดอยู่แล้ว

ใครก็ตามที่รู้จักคนเป็นโควิด-19 แล้วหายแล้วก็ไม่ต้องกังวล?

แมทธิว : ก็ยังใส่หน้ากากกันได้นะ และควรจะใส่ด้วยซ้ำ คนไทยทำตอนนี้มันดีมาก ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ ใช้เจล ก็ป้องกันได้ 90 กว่าเปอร์เซ็นแล้ว ทำไว้ก่อนเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เซฟคุณ เซฟตัวเอง เซฟครอบครัวด้วย

ล่าสุดภาครัฐจะคลายล็อกดาวน์เฟส 3 อยากเตือนอะไรไหม?

แมทธิว : ดีใจด้วยกับการคลายล็อกดาวน์ มันช่วยธุรกิจหลาย ๆ อย่างและช่วยคนหลาย ๆ คน แต่ก็อยากให้ระมัดระวังกันเหมือนเดิม เฟส 2 ของโควิดมันมีแน่ จะมากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่ยังไงเราควรใช้ชีวิตระมัดระวัง สิ่งที่คุณหมอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแนะนำมาตลอดทำไป อย่าชะล่าใจ การ์ดอย่าตก หน้ากากเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดเลย ล้างมือบ่อย ๆ เจล สามอย่างนี้ 90 เปอร์เซ็นแล้ว มันสุดยอดมาก ถ้ายอดประเทศไทยอยู่แค่นี้มันจะสวยเลย รอวัคซีคอย่างเดียวแล้วจะกลับไปเหมือนเดิม คลายล็อกดาวน์ แต่อย่าคลายความระมัดระวังของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม แมทธิว ดีน ยังโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวด้วยว่า ขอบคุณพี่หนุ่ม กรรชัย พี่ชายสุดรักผมที่ให้โอกาสมาพูดคุยเรื่อง ผู้ป่วย Covid -19 ที่หายแล้ว แต่กลับโดนสังคม เพื่อนบ้าน คนในครอบครัวรังเกียจและบูลลี่ แค่ติดไวรัสนี้ก็แย่อยู่แล้วครับ ทั้งเครียดและเป็นห่วงคนรอบข้าง ไม่มีใครอยากเป็นหรอกครับ อย่าไปซ้ำเติมเค้าเลย คนที่หายแล้ว คุณหมอจะให้กล้บบ้านไปและใส่หน้ากากต่อไปอีก2-3สัปดาห์ เพื่อการระวังอีกระดับนึง หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตได้ปกติถือว่าหายขาดแล้วครับ ในช่วงนี้ที่ทุกอย่างกำลังปลดล็อก อย่าลืมใส่หน้ากาก และล้างมือบ่อย ๆ เพื่อความปลอดภัยครับ #การ์ดอย่าตก #covid19 #โหนกระแส @kanchai

ที่มา : @matthew.deane1 และ รายการโหนกระแส