มาอีกแล้วสมฉายาพระยามโนนิติงงงวย!?! เมื่อ ปิยบุตร ผลิตคำ Lawfare หรือ “นิติสงคราม” พุ่งเป้าโจมตีอ้างการใช้ “ศาล” ในทางสงคราม อันหมายถึงกำจัดศัตรูทางการเมือง!!! ซึ่งดูแล้วเห็นว่านี่คือการบิดเบือนให้คนไม่รู้หรือเข้าใจผิดต่อกระบวนการของศาล หวังปลุกระดมเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตนเองหรือไม่???
(1) ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องกกต. ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีธนาธรปล่อยเงินกู้ให้พรรค
(2) ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงกรณีได้รับพิจารณา คำร้องที่ณฐพร โตประยูร ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่,
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 1-4 ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มลังการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่
(3) ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า ในคดีนี้ มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องทำการไต่สวน และนัดอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 21 มกราคม 2563 เวลา
(4) ปิยบุตร ไลฟ์สด Lawfare หรือ “นิติสงคราม” อ้างมีการใช้กฎหมาย ใช้ศาล เพื่อบรรลุเป้าประสงค์ในทางสงครามหรือเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมือง
(5) Judicilization of Politics กระบวนการทำให้ประเด็นทางการเมืองกลายไปเป็นคดีและอยู่ในมือศาล
(6) ปิยบุตร ตั้งใจโพสต์ข้อความ และบรรยายอย่างละเอียด ท่ามกลางศาลรัฐธรรมนูญกำลังจะมีคำวินิจฉัยคดีที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่และพรรคอนาคตใหม่ทำผิด
(7) ยิ่งชัดเจนว่าเป็นเจตนาเมื่อเพจ พรรคอนาคตใหม่ – Future Forward Party โพสต์ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีอิลลูมินาติยุบพรรคอนาคตใหม่ 21 มกราคม 2563
(8) ทั้งยังนำสิ่งที่ปิยบุตร พูดมาโพสต์ว่า เราอยากฝากให้สังคมได้ระลึกไว้เสมอ “นิติสงคราม” ไม่เคยเป็นผลดีต่อสังคมและประเทศชาติ เพราะไม่เคยแก้ปัญหาใดๆได้เลย
(9) ดังที่จะเห็นการใช้กระบวนการเช่นนี้มาในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ทำให้ความขัดแย้งลดลง ซ้ำยังทำให้ความแตกแยกร้าวลึกลงไปอีก
(10) #อนาคตใหม่ #ศาลรัฐธรรมนูญ #อิลลูมินาติ #Lawfare #นิติสงคราม
(11) ความหมายของคำว่า นิติ หมายถึง [นิติ, นิด] น. นีติ, กฎหมาย, กฎปฏิบัติ, แบบแผน, เยี่ยงอย่าง,ขนบธรรมเนียม, ประเพณี, วิธีปกครอง, เครื่องแนะนํา, อุบายอันดี. (ป., ส. นีติ)
.
(12) ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรตุลาการที่จัดตั้งขึ้นครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
(13) ประกอบด้วยประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรวม 15 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา
(14) ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาดและมีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ
(15) การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญเป็นระบบไต่สวน ศาลมีอำนาจไต่สวนหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ ซึ่งแตกต่างจากวิธีพิจารณาที่ใช้ในคดีทั่วไปของศาลยุติธรรม
(16) ถามว่าปิยบุตร ในฐานะอาจารย์กฎหมาย หยิบเฉพาะตอน-เฉพาะประเด็น มาสรุปเรื่องทั้งหมด โน้มน้าวไปในทิศทางตามตนต้องการหรือไม่???
(17) การที่มีผู้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นศาลระบบไต่สวน และศาลได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า “พยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องทำการไต่สวน”
(18) นั่นคือวิธีการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งใช้ระบบไต่สวน เป็นขั้นตอน กระบวนการที่ปกติ
(19) แล้วทำไมนักกฎหมายอย่างปิยบุตร ถึงไม่พูด แต่เลือดไปพูดอีกแบบ เพื่อให้คนที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจในระบบของศาลรัฐธรรมนูญเข้าใจผิดคล้อยตามใช่หรือไม่???
(20) ปิยบุตรและพรรคอนาคตใหม่ เลือกพูดในวิธีระบบกล่าวหาซึ่งเป็นกระบวนการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม เพื่อให้เห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งใช้ระบบไต่สวน ไม่ฟังความสองด้าน รีบรวบรัดตัดสินคดีของตัวเองใช่หรือไม่???
(21) เพราะวิธีการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญก็มีเปิดเผยให้ทราบกันโดยทั่วไปว่า เป็นระบบไต่สวนที่ศาลเป็นผู้ไต่สวนเอง มีอำนาจสืบพยาน และควบคุมการไต่สวนเอง ซึ่งต่างกับระบบกล่าวหาในศาลอาญา
(22) คดีความของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ล้วนเกิดขึ้นจากการทำเองทั้งสิ้น ไม่มีใครไปยัดเยียดให้ทำขึ้นมา และสิ่งไหนที่ทำจริง-ไม่ได้ทำจริงก็รู้อยู่เต็มอกอยู่แล้ว!!!
(23) แล้วทำไมปิยบุตร ที่เป็นถึงอาจารย์สอนกฎหมายถึงออกมาพูดเช่นนี้ รู้ตัวหรือไม่ว่า กำลังบิดเบือน!!! หรือไม่สนใจเพราะกำลังเข้าตาจน?!? แบบนี้เด็กๆเยาวชนดูเป็นเยี่ยงอย่างได้ แต่อย่าเอาเป็นแบบอย่าง!?!
#ปอกเปลือก#ปอกให้เห็นความจริง