Orkney เป็นเมืองที่ถูกฝูงห่านจำนวนมากรุกราน พวกมันสร้างความเสียหายอย่างหนักทางการเกษตร ทำให้ทางการอนุญาตให้การล่าห่าน และ กินห่านถูกกฏหมาย
มันคงเป็นเรื่องหน้าแปลก ถ้าเราจะใส่ชุดพรางตัว แบกอาวุธ แล้วก็เดินเข้าไปในทุ่งนา แต่ไม่แปลกสำหรับ steve rogers เขาเดินเข้าไปในทุงหญ้าด้วยชุดดังกล่าวเพื่อไปหาที่อยู่ของฝูงห่านเหล่านั้น
“ซ่อนตัวก่อน” สตีฟ กระซิบบอกในความมืดแหละหมอบอยู่ใต้ลม
“เดี๋ยวผมจะส่งเหยื่อล่อออกไป ให้พวกมันคิดว่าเราจะมาให้อาหารมันนะ” เขายิ้มและให้สองคนเดินตามเขาไป “ที่เหลือถือปืนให้เรียบร้อยนะ”
ในปี 2002 องค์การอนุรักษ์นก RSPB ได้ทำการขยายพันธุ์นก Greylag ใน Orkney กว่า 300 คู่ จากนั้นหกปีต่อมาจำนวนของนกก็พุ่งขึ้นสูงถึงหมื่นตัว และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าจำนวนในตอนนี้จะมากถึง 64,000 ตัว ซึ่งจำนวนที่มากขนาดนี้ ทำให้พวกมันสามารถทำลายพืชผลการเกษตรในพริบตาได้เลยทีเดียว
“ความเสียหายที่นกพวกนี้ทำนั้นรุนแรงและรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ” สตีฟพูด สตีฟเป็นคนที่จัดกิจกรรมล่าห่านในช่วงวันหยุด เขาเตรียมเรียกห่านที่ต้องการจะล่าด้วยนกหวีดของเขาในรุ่งเช้า “สิ่งที่เราทำนั้นไม่ใช่แค่กีฬาอีกแล้ว มันเป็นสิ่งจำเป็น”
แล้วมันก็ถูกกฎหมายแล้ว คนพื้นถิ่นที่อาศัยอยู่ในที่นั้นสามารถยิงนกเพื่อควบคุมประชากรได้ตั้งแต่ปี 2012 แต่ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจห่านไล่ทุ่ง และ Scottish natural heritage (SHN) ทำให้การล่าจึงต้องยืดออกไปก่อนถึงเกือบปี
“พวกมันมาทางซ้ายแล้ว” สตีฟกระซิบให้กับคนที่อยู่ในที่ซ่อน “ยิงมันเลยพวก”
เสียงปืนดังขึ้น หมาพันธุ์ Labrador สัตว์เลี้ยงของเขา ก็วิ่งไปคาบนกที่ถูกยิงตายเอามาให้กับเจ้านายของเขา
“พวกมันทำลายข้าวบาเลย์ที่ผมปลูกไว้” Alister Donaldson ชาวนาที่อยู่ในบริเวณที่เรากำลังล่าห่านอยู่
“พวกมันเป็นปัญหาใหญ่” เขาเสริม “พวกมันชอบเข้ามาในช่วงที่เวลาก่อนเวลาที่สามารถเก็บเกี่ยวข้าว แล้วก็ทำลายทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง”
ยังไม่พอ เราต้องการนักล่าเพิ่ม
ห่าน Greylag เป็น species ที่เรียกว่า Quarry species หมายถึงสิ่งมีชีวิตที่แทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องของการควบคุมประชาการเลย ไม่เสี่ยงสูญพันธุ์ อ้างอิงจาก Scottish natural heritage’s Northern Isles and North Highland area manager ห่านพวกนี้ต้องการการจัดการที่ดีอย่างยั่งยืน ทางหนึ่งที่นิยมใช้กันก็คือ การใช้วิธีทาน้ำมันบนไข่ของห่าน ซึ่งวิธีนี้ จะทำให้ตัวอ่อนในไข่ ไม่สามารถหายใจและตายลงได้ และอีกวิธีหนึ่ง ก็คืออนุญาตให้สามารถล่าห่านได้ทั้งปี ไม่ใช่แค่ฤดูล่าห่านเท่านั้น
ในที่ซ่อนของสตีฟ เขาก็ซุ่มรออยู่เพื่อที่จะจัดการกับชุดถัดไป “มาแล้ว เบอเกอร์ของฉัน” rob หนึ่งในนักแม่นปืน พูดพร้อมหัวเราะ ในขณะที่สตีฟกำลังเป่านกหวีดของเขา “และนั่นก็เป็นไส้กรอกของฉัน” Joke เพื่อนของ Paul พูด จากนั้นก็ยิงขึ้นไป
ในปัจจุบันห่านที่ได้มามักจะถูกนำไปทิ้ง เนื่องจากกฏหมายยอมหขายเนื้อห่านได้เพียงแค่บางที่เท่านั้น
แต่ในตอนนี้ SNH กำลังจะประกาศกฎหมายใหม่ ให้สามารถขายเนื้อในสก็อตแลนด์ได้
“เราพยายามมองหาวิธีที่จะทำให้เราสามารถขายเนื้อได้ง่ายขึ้น” Graham Neville เจ้าหน้าที่ SNH “เพราะว่าการขายเนื้อห่าน เป็นการสร้างรายได้ที่ดีให้กับชาวนาอีกทางหนึ่งอีก และยังเป็นวิธีควบคุมประชากรห่านที่ดีอีกด้วย”
ในร้านขายเนื้อของ Thorfinn Craigie ด้านหลังเขาเต็มไปด้วยห่านที่ถูกล่ามาได้แขวนไว้บนกำแพง
“ผมได้ขายเนื้อห่านให้กับลูกค้าสามคนที่ต้องการเอาไปใช้ในวันคริสมาสต์” เขาพูด “มันดีมากเลย เนื้อห่านเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี มีไขมันแทรกต่ำ เราขายเนื้อห่านเพื่อทำเป็นเบอเกอร์ ไส้กรอก อาหารฟาสฟูด หรือแม้แต่อาหารในภัตตาคารแพลงๆในเมือง นกที่ล่ามานี้ไม่มีส่วนไหนที่ทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ ที่นี่ไม่มีใครอยากใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองหรอก”
กลับมาที่ที่ซ่อนของ สตีฟ ห่านเหล่านั้นเริ่มรู้ตัวว่ากำลังจะถูกล่า และเริ่มที่จะหนี สตีฟจึงให้เพื่อนๆของเขากลับไปที่ที่พัก เพื่อทำอาหารเช้าทานกัน
“จริงๆแล้ว ผมคิดอยู่เรื่องเดียว สิ่งที่ผมล่ามานั้น ต้องถูกใช้อย่างเป็นปะรโยชน์ เราไม่ได้ฆ่านกเพื่อความสะใจแน่นอน เพื่อสมดุลของระบบนิเวศ ถ้าใครคิดที่จะมาล่านกเพื่อความสนุก หยุดเลย ไม่มีทางทำแน่นอน เราล่านกเพิ่ม เพียงเพราะว่านกทำให้ชาวนาเดือดร้อนแค่นั้นเอง”
สตีฟก็ไม่ได้มีเวลาทานอาหารเช้ามากนัก เขายังต้องเดินทางไปทั่วๆเกาะ เพื่อหาจุดที่ห่านอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อยิงต่อในบ่ายนี้ เขาหวังว่าความพยามของเขาจะพาเขาไปเจอกับฝูงห่านที่เขาต้องการ
#Orkney #Greylag #hunt
https://www.bbc.com/news/stories-50816678