จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บัญชา เตชนราฤทธิ์” ได้โพสต์คลิปและภาพเหตุการณ์คนทำร้ายร่างกายกันเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ระบุข้อความว่า…13.50 เกิดอุบัติเหตุบนถนนกัลปพฤกษ์ 4 แยกไฟแดง ขาเข้าถนนบางแค บางบอน เขตพื้นที่รับผิดชอบ สน.บางขุนเทียน
รถแท็กซี่เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110 i สีแดง-ขาว ป้ายทะเบียน873(ป้ายเหลือง) ไม่ทราบตัวอักษรของทะเบียนรถ หลังเกิดเหตุเฉี่ยวชนทางด้านคนขับรถจักรยานยนต์ได้ลงมาทำร้ายร่างกายคุณลุงคนขับแท็กซี่
โดยได้มีการใช้หมวกกันน็อกฟาดทำร้ายร่างกายตามใบหน้า และร่างกายของคุณลุงคนขับแท็กซี่ และยังได้ใช้ไขควงทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นคนขับรถจักรยานยนต์ก็ได้ทำการขับรถหลบหนี
สอบถามเบื้องต้นจากคุณลุงคนขับแท็กซี่ ได้ความมาว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุตนได้ขับรถมาปกติ แต่จู่ ๆ คู่กรณีได้ขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้ารถตน แล้วตนเองจึงได้ชนกับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ตนพยายามจะคุย แต่ทางฝั่งคู่กรณีไม่ฟังความ และลงมือทำร้ายร่างกายตน และหลบหนีไปในที่สุด #อากาศร้อน #หัวอย่าร้อนตามอากาศกัน #ขอบคุณคลิปจากน้องเพลิง
ทั้งนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกตร. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สน.เพชรเกษม มี นายเม้ง ชายอายุ 75 ปี ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ว่าขณะที่ตนกำลังขับรถแท็กซี่มายังบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ขับรถเฉี่ยวขนกับจักรยานยนต์คู่กรณี และจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้เสียหลักไปชนกับรถกระบะอีกคันหนึ่งได้รับความเสียหาย จากนั้นได้ขับออกมาจากบริเวณดังกล่าว และถูกผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทำร้ายร่างกาย
โดย พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ได้ส่งตัวผู้รับบาดเจ็บไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลแล้ว ต่อมามี นายพชร ชายอายุ 32 ปี เดินทางเข้ามาแสดงตนต่อพนักงานสอบสวน ว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ คันดังกล่าวจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า นายพชร คู่กรณี นายเม้ง คนขับรถแท็กซี่ ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำทั้งคู่อย่างละเอียด เนื่องจากยังให้การขัดแย้ง ซึ่งหลังจากนี้ได้ให้ชุดสืบสวนไปติดตามกล้องวงจรปิด ตามเส้นทาง ก่อนและหลังเกิดเหตุ รวมทั้งสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อนำมาประกอบการสอบสวน หาข้อเท็จจริงในเรื่องสาเหตุในการทะเลาะวิวาท
พ.ต.อ. ศุภวัช ยังบอกอีกว่า นายพชร คนขับรถจักรยานยนต์คู่กรณี ได้แจ้งความกลับนายเม้งข้อหาพยายามฆ่า อ้างว่าหลังเฉี่ยวกัน นายเม้งนำไขควงลงมาจากรถ พยายามจะเข้ามาทำร้าย ซึ่งนายพชรคว้าไว้ได้ทันก่อนโยนไขควงทิ้ง ขณะที่นายเม้ง ยืนยันว่าเอามาใช้ป้องกันตัวไม่ได้นำลงไปทำร้าย
ขณะที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บัญชา เตชนราฤทธิ์” ได้โพสต์ข้อความอีกว่า อัปเดต เช้านี้ จากกรณีที่ผมได้โพสต์เบื้องต้นไว้ว่าคู่กรณีของคุณลุงได้มีการใช้อาวุธไขควงทำร้ายด้วย ผมได้ฟังจากกองพิสูจน์หลักฐาน
ได้ความที่แน่ชัดแล้วว่าไขควงไม่ใช่ของคู่กรณีคุณลุงครับ และไม่มีร่องรอยบาดแผลของการโดนไขควงทำร้าย ส่วนคราบลอยเลือด น่าจะเป็นเลือดที่กระเด็นไปโดนโดนครับ ส่วนที่เห็นตามภาพว่าขวาคือคู่กรณีดึงออกมาจากมือคุณลุงครับ และที่แน่ชัดยิ่งขึ้น คือ ผมได้ฟังจากปากของหลานคุณลุงเองว่าครับ คุณลุงยอมรับว่าไขควงนี้เป็นของคุณลุงเอง
ที่มา : เฟซบุ๊ก “บัญชา เตชนราฤทธิ์”