จากกรณีชาวบ้านซื้อขนมจีบจากแม่ค้าเร่แล้วเกิดอาหารเป็นพิษอย่างรุนแรง ถึงขั้นมีผู้ต้องเข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาล และหนึ่งในนั้นมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงวัย 66 ปี
โดยทาง แม่ค้าขนมจีบ เปิดเผยว่า รับขนมจีบมาจากผู้ผลิตรายหนึ่งใน ต.เกาะไร่ วันละประมาณ 15 กล่อง โดยจะนำมาขายต่อด้วยการเร่ขายตามบ้านคน และตามสถานที่ทั่วไป ทั้งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริเวณเขตแนวรอยต่อจังหวัดกัน
ต่อมา นพ.กสิวัฒน์ ศรีประดิษฐ์ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขนมจีบมีส่วนผสมของไส้หมู แต่บ้านผู้ผลิตเป็นมุสลิมไม่ทำไส้หมู จึงเชื่อว่าน่าจะมีความเข้าใจกันผิดหรืออาจเข้าใจกันคลาดเคลื่อน อีกทั้งผู้ผลิตยืนยันว่าขายให้แม่ค้าเร่ในวันที่ 6 พ.ค. ส่วนวันที่ 7-8 พ.ค. หยุดเพราะไม่สบาย แต่มีชาวบ้านยืนยันว่าซื้อขนมจีบจากแม่ค้าเร่วันที่ 7 พ.ค. ช่วงบ่าย
ความคืบล่าสุดสำนักข่าว tnn รายงานว่า นายประกิจ วงค์ประเสริฐ หัวหน้างานกลุ่มควบคุมโรค สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการตรวจตัวอย่างขนมจีบที่ผู้ป่วยทาน เปรียบเทียบกับผลตรวจของผู้ป่วย พบว่า มีเชื้อแบคทีเรีย salmonella ที่ทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ร่างกายอ่อนเพลีย หากเสียน้ำในร่างกายมาก ๆ อาจช็อกจนเสียชีวิตได้
โดยเชื้อดังกล่าว เกิดจากการเก็บอาหารไว้นาน ซึ่งขนมจีบเป็นอาหารที่เสียง่าย ส่วนจะเป็นเนื้อหมูหรือเนื้อไก่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอผลสรุปจากผู้ป่วยอื่นต่อไป
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง ได้สอบปากคำผู้ป่วยและพยานไป 7-8 ปากแล้ว รวมทั้งทำหนังสือเรียกแม่ค้าขนมจีบ ไปแล้ว 1 ครั้ง เพื่อมาให้รายละเอียดกับพนักงานสอบสวน แต่แม่ค้ายังไม่ได้เดินทางเข้าให้ปากคำ