จากกรณีเป็นเรื่องวิจารณ์กันอย่างมากในสังคม เมื่อเพจเฟซบุ๊กชื่อ “คลิปวงจรเปิด” ได้โพสต์ข้อความถึงปริศนาของ น.ส.นิษฐา หรือ แม่ปุ๊ก แม่เลี้ยงเดี่ยวรายหนึ่ง ที่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 แม่ปุ๊กถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ จนนำมาสู่พิรุธถึงการเสียชีวิตของลูกทั้งสองคนของเธอ
โดยมีรายละเอียดจากโพสต์ดังกล่าวว่า คดีปริศนา #แม่ปุ๊ก วางยาฆ่าลูก #น้องอมยิ้ม ฮุบเงินบริจาค 20 ล้าน คดีลึกลับนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 เมื่อแม่ปุ๊กไปแจ้งความว่าถูกผู้ใช้เฟซบุ๊ก 2 ราย กล่าวโจมตีว่าเธอวางยาลูกเเท้ ๆ ของตัวเองเพื่อรับเงินบริจาค ในเฟซบุ๊กแฟนเพจของเธอ ที่ใช้ชื่อว่า “Yimim Wattanakul” จึงมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยสืบสวนจับกุมในวันที่ 25 เมษายน
แต่เรื่องราวนี้ ได้แพร่กระจายไปในวงกว้าง และในที่สุดตำรวจกองปราบปรามได้จับแม่ปุ๊กเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 มาดำเนินคดีใน #ตามหมายจับของศาลอาญา ใน 3 ข้อหาฆาตกรรม คือ #รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ #พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน #ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และฉ้อโกงอีก 2 คดี คือ #ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และ #ฉ้อโกงประชาชน
ปี 2560 ย้อนที่มา #แม่ปุ๊ก และ #น้องอมยิ้ม แม่ปุ๊กเป็นที่รู้จักในปี 2560 เธอได้สร้างโพรไฟล์ในเฟซบุ๊กว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูกน่ารัก 2 คน คือน้องอมยิ้มอายุ 3 ขวบ และน้องอิ่มบุญ ส่วนสามีได้ทิ้งไป
ปี 2562 ที่มาของการเปิดเพจ #รับบริจาคช่วยน้องอมยิ้ม กระทั่งในปี 2562 เธอได้โพสต์ภาพว่าน้องอมยิ้มป่วยเป็นโรคประหลาดที่เลือดไหลออกทางปาก และอ้วกเป็นเลือด โดยอ้างว่าแพทย์ที่รักษาลูกบอกเป็นโรคประหลาด มีเพียง 1 ในล้าน ดังนั้น เธอจึงทำสินค้าต่าง ๆ มาเพื่อขอรับบริจาค เป็นทุนในการรักษาลูก อย่างไรก็ตามน้องอมยิ้มได้อาการทรุดหนักในเดือนสิงหาคม และเสียชีวิตในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน
ปี 2563 ชาวเน็ตเริ่มผิดสังเกต #น้องอิ่มบุญ ป่วยด้วยโรคเดียวกัน หลังน้องอมยิ้มเสียชีวิตแม่ปุ๊กได้เศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก และอ้างว่าต้องไปถือศีลบวชชี
ต่อมาในต้นปี 2563 เธอมาโพสต์เรื่องสุดช็อกอีกครั้ง เมื่ออ้างว่าน้องอิ่มบุญ ป่วยด้วยโรคประหลาดเหมือนพี่อมยิ้ม ที่เพิ่งจากไป ทำให้ชาวเน็ตแห่บริจาครวมทั้งซื้อสินค้าจำพวกหน้ากากอนามัย ถุงผ้าจากแม่ปุ๊กจำนวนมาก โดยคาดการณ์กันว่า มียอดเงินบริจาครวมแล้วถึง 20 ล้านบาท แต่แม่ปุ๊กกลับไม่ส่งสินค้าให้กับผู้สั่งซื้อ รวมทั้งผู้บริจาค ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนเริ่มเห็นเค้าลางไม่ดีในเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้
#จับพิรุธแม่ปุ๊ก เคยมีผู้เสนอให้นำตัวน้องอมยิ้มไปรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่แม่ปุ๊กได้ปัดข้อเสนอนี้ไป จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่ากลัวการตรวจโรคอย่างละเอียดหรือ ไม่นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าแม่ปุ๊กมีการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลอีก 4 ครั้ง
#ผู้บริจาคเริ่มสงสัย นอกจากไม่ได้สินค้าแล้ว เพจที่แม่ปุ๊กทำยังมีการเปิด ปิด อย่างผิดสังเกต และมีการขุดคุ้ยจนมีข้อมูลอีกชุดว่าเด็กทั้ง 2 คน ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของแม่ปุ๊ก เป็นเด็กที่รับอุปการะมา โดยบิดาของแม่ปุ๊ก หรือตาของเด็กทั้งสองยืนยันว่าน้องอิ่มบุญเป็นลูกของแม่ปุ๊กจริง ๆ แต่ #ยอมรับว่าน้องอมยิ้มเป็นเด็กที่อุปการะมา
#สารเคมีที่พบในน้ำยาล้างห้องน้ำหยดให้น้อง #อมยิ้ม หนึ่งในผู้บริจาคให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว #ช่อง8 ว่าเธอได้รับข้อมูลจากตำรวจว่าสารเคมีที่พบในร่างของน้องอมยิ้ม ที่แม่ปุ๊กรับอุปการะมานั้นเป็นส่วนประกอบที่พบในน้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งอาจถูกหยดให้เด็กกินทุกวันจนป่วย ซึ่งเรื่องนี้ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนอยู่
เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ที่ทัณฑสถานหญิงในขณะนี้ เนื่องจากไม่มีเงิน 3 แสนบาท มายื่นประกันตัว
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้ามาดูแลกรณีการรักษาตัวของน้องอิ่มบุญ ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่แล้ว
ด้าน นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ขอให้ศาลสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เนื่องจากมีความเห็นว่าเด็กอาจได้รับอันตรายหากอยู่ในความดูแลของมารดา โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 37
ประสานส่งตัวเด็กเข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพ ในระบบครอบครัวอุปถัมป์ขององค์กรเอกชน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 33 และช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนแม่เด็กกองปราบปรามออกหมายจับคดีฉ้อโกง และทำร้ายร่างกายเด็กจนได้รับอันตรายสาหัส ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ปัจจุบันถูกฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม และคัดค้านการประกันตัว
ทั้งนี้ ทีมสหวิชาชีพมีข้อสงสัยว่าเด็กทั้ง 2 คน อาจจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ข้อสันนิษฐาน ดังนี้
กรณีน้องอมยิ้ม กองปราบสืบทราบว่าในใบเกิดชื่อพ่อแม่เป็นบุคคลอื่น
กรณีน้องอิ่มบุญ มีการแจ้งเกิดเป็นชื่อแม่แต่ไม่มีการฝากท้อง ชื่อพ่อไม่ปรากฏ ซึ่งหมอขอให้ตรวจ DNA แต่แม่ไม่ยินยอม จึงต้องขออำนาจศาลให้ตรวจ DNA ในกระบวนการ
แม่มีการเปลี่ยนชื่อถึง 4 ครั้ง
ที่มา : คลิปวงจรเปิด