คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอนเมื่อ3บิ๊กเนมผู้อยู่ในสถานการณ์ทางการเมืองออกมาส่งเสียงเตือนธนาธร ในการที่จะนำพาม็อบลงสู่ท้องถนน??? เป็นเสียงเตือนที่ห่วงใยการชุมนุมซึ่งประเทศไทยเคยมีบทเรียนมาแล้ว ทั้งคนบาดเจ็บและล้มตาย!!! ดังนั้นเรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะยอมฟังหรือไม่???
14 ธ.ค.62 ธนาธรกล่าวว่า “การแก้รัฐธรรมนูญ ผมมองว่ามี 2 ทาง คือ แก้ด้วยเลือด หรือ แก้ด้วยการยินยอมพร้อมใจจากทุกฝ่าย”
เมื่อคำพูดนั้นของธนาธรเผยแพร่สู่สาธารณะก็ทำให้หลายคนอดห่วงไม่ได้ ดังนั้นจึงมีเสียงเตือนออกมาอย่างน้อยๆก็3คน
หนึ่ง – สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กล่าวในรายการ “Thai Move Talk” ทางช่องสถาบันทิศทางไทย โดยตั้งในหัวข้อเป็นคำถาม!! ถามว่า เลือดที่อยากหลั่งถ้าเป็นเลือดของ แม่ ภรรยา หรือลูก ของธนาธรยอมได้หรือไม่
ความหมายที่ต้องการจะแก้รวมประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ตามอุดมการณ์ของ “ธนาธร” และพรรคอนาคตใหม่หรือไม่
“มีคำถามว่าเลือดที่ธนาธรว่าจะต้องหลั่ง เป็นเลือดใคร ฝ่ายเชียร์ “ธนาธร” หรือเป็นเลือดประชาชนอีกฝ่ายที่ไม่รับกับแนวคิดของ “ธนาธร”
ประเด็นที่จะต้องศึกษาและเรียนรู้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ก็คือ เมื่อเกิดการหลั่งเลือด ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 14ตุลา 2516 , 6 ตุลา2519 , พฤษภา 2535
การชุมนุมของพันธมิตรฯช่วงปี 2548-2549 ,การชุมนุมของคนเสื้อแดง 2552-2553 หรือการชุมนุมของกปปส. 2556-2557 ทุกครั้งจะมีการแทรกแซง
มีการผลักดันอยู่ข้างหลังจากคู่ความขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่าย ต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น
หลังจากเกิดเหตุการณ์ก็คือ ปรากฏวีรบุรุษที่ทั้งบาดเจ็บ และล้มตาย
และสิ่งที่ติดตามมาอีกก็คือมีคนจำนวนหนึ่งได้เสวยสุข ได้ประโยชน์ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือวงจารอุบาท ที่กอบโกยจากการเมือง เป็นวงจรอุบาทที่ไม่มีที่สิ้นสุด.. สนธิญาณ กล่าวย้ำ!!! ก่อนเตือนธนาธรด้วยคำถามอีกครั้งว่า
“พร้อมที่จะตายเป็นคนแรกหรือไม่ พร้อมที่จะหลั่งเลือดเป็นคนแรกหรือไม่ หรือถ้าเลือดที่ประกาศจะหลั่ง เป็นเลือดของแม่คุณ
ของภรรยาคุณ ของลูกคุณ …คุณจะรู้สึกอย่างไร? คุณมีความรู้สึกที่พร้อมจะให้บุคคลอันเป็นที่รักของคุณหลั่งเลือดเพื่ออุดมการณ์แก้รัฐธรรมนูญของคุณด้วยใช่หรือไม่”
สอง – สนธิ ลิ้มทองกุล ที่กล่าวว่า ไม่เพียงนรกรออยู่ข้างหน้าหากคิดจะปลุกม็อบลงถนน
ให้ดูตัวอย่างสนธิในการชุมนุมของพันธมิตรฯ และการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่าง นปช.ทั้งจตุพรและณัฐวุฒิ ต้องเจอกับอะไรบ้าง
“การต่อสู้ครั้งนี้ผมไม่ดูถูก ถ้าคุณสู้ในระบบที่พวกเขาอยู่ในระบบ คุณมาสู้ในถนนก็ไม่ได้สู้จริง สู้แบบฉาบฉวย แบบดิจิทัลแฟลชม็อบ
คุณธนาธรครับ นรกอยู่ข้างหน้า เชื่อผม ผมผ่านมาหมดแล้ว ถามตัวคุณเองพร้อมจะสู้ไหม พร้อมจะควักหมื่นล้านมาสู้ไหม คุณก็ไม่พร้อม”
“ถ้าจะสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ก็ต้องสู้ด้วยเลือด คำถามคือ กล้าพอไหม ผม, จตุพร, ณัฐวุฒิ ผ่านมาแล้ว คุณเป็นคนที่มีอนาคต เลิกมีอัตตาในตัวเอง” สนธิเตือนธนาธร
สาม – จตุพร พรหมพันธุ์ เชื่อว่าธนาธรจะเดินหน้านำมวลชนลงถนน อยู่ในสภาพขี่หลังเสือ
แต่ธนาธร ต้องเตรียมตัวให้ดีเพราะหลังจากนี้มวลชนจะล้ำหน้าแกนนำไม่ยอมชุมนุมแค่ 1 ชั่วโมง แล้วกลับบ้านแต่จะปักหลัก
เป็นหน้าที่แกนนำต้องรักษาชีวิตมวลชน ส่วนตัวคิดว่าขบวนการของธนาธร มีจุดจบไม่ต่างจากนปช.คือประชาชนบาดเจ็บ ล้มตาย และแกนนำติดคุก!!!
สุดท้ายประธานนปช. กล่าวเตือนว่า จะมีม็อบต่อต้านพวกชังชาติขณะที่ม็อบธนาธร ก็เดินหน้าคู่ขนาน จะรุนแรงยิ่งกว่า 6 ตุลา 2519
สงครามกลางเมืองยืดเยื้อแบบรวันดา ที่2ฝ่ายเข่นฆ่าด้วยความเชื่อที่แตกต่างกัน ที่สุดจะจบลงด้วยการยึดอำนาจของทหาร?!?
นั่นคือเสียงเตือนที่ต้องถือว่ามีคุณค่ายิ่ง ที่ธนาธรน่าที่จะควรรับฟัง เพราะไม่ว่าฟังจากมุมไหน ล้วนช่วยเตือนสติของคนที่คิดจะนำคนลงถนนทั้งสิ้น!!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเงื่อนไขที่ธนาธรนำมาปลุกเร้าชุมนุมดูเหมือนว่า ยังหาสาระที่จะมารองรับได้เลยว่าสิ่งที่ปลุกระดมอยู่นั้นเพื่อประโยชน์ชาติจริงๆ???
#ปอกเปลือก#ปอกให้เห็นความจริง
