จากที่รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล พูดถึงครบรอบทศวรรษ วันสลายการชุมนุมพี่น้องเสื้อแดง ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจและตั้งคำถามหลายเป็น กระนั้นสิ่งน่าพิจารณาก็คือ การออกมาให้ข้อมูลนี้ถูกต้องหรือ บิดเบือน ซึ่งขอหยิบมาบางช่วงให้ตัดสิน?!?
ทั้งนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล อ้างว่า เหตุการณ์นี้คือเหตุการณ์ความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่รัฐกระทำต่อประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเรียกร้องให้ยุบสภา ซึ่งถ้าว่ากันตามข้อเท็จจริง รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้พลิกมาเป็นรัฐบาลจากการที่มีกองทัพหนุนหลังพร้อมด้วย “งูเห่า” จากขั้วการเมืองของเนวิน ชิดชอบ พร้อมคำครหาว่าจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
“วาทกรรมชายชุดดำและการเผาเมือง การสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไม่ได้กระจ่างชัดจนสามารถสรุปได้ว่ามีชายชุดดำ ออกมาต่อสู้กับกองกำลังทหาร แม้ว่าจะมีคำพิพากษาในหลายคดีว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงจากฝ่ายเจ้าหน้าที่โดยปราศจากอาวุธในมือ กล่าวคือไม่มีชายชุดดำสักคนเดียวถูกเจ้าหน้าที่ยิง แต่ชายชุดดำยังคงเป็นวาทกรรมที่ถูกผลิตออกมาลดทอนความชอบธรรมอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการเผาเมืองก็ยังมีกรณีอย่างคดีเซ็นทรัลเวิลด์ที่ถูกใช้เป็นประเด็นการเมืองอยู่ตลอดแม้ว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาแล้วว่าไฟไม่ได้ไหม้เพราะจำเลยที่ถูกฟ้องในคดีนี้ อันที่จริงรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังมีอำนาจเต็มหลังเหตุการณ์อีกอย่างน้อย 1 ปี ถ้าฝ่ายผู้ชุมนุมมีการติดอาวุธ มีกองกำลังของตัวเองอย่างเป็นระบบจริง ทำไมรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงในขณะนั้นถึงไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้
ล่าสุดวันนี้(20พ.ค.63) นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กด้วย โดยระบุว่า ชี้หมูแต่บอกว่าหมา วันหนึ่งมีเกเรกลุ่มหนึ่งยืนรวมกลุ่มกัน ทุกคนเอานิ้วชี้ไปที่หมู และตะโกนพร้อมกันว่าเป็นหมา เด็กคนอื่นก็งงๆ บอกกลับไปว่าหมู เด็กเกเรกลุ่มนี้ก็ยังบอกว่าหมา
มันก็ไม่ต่างกับเหตุการณ์ช่วงนี้ ที่มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง มาตะโกนพร้อมกัน โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง บอกว่า พ.ค.53 ทหารยิงหัวประชาชน ขณะที่ประชาชนทั่วไป เขารับรู้ว่า มีชายชุดดำมายิงทหาร ขว้างระเบิดใส่ทหาร ไม่ใช่การชุมนุมที่สงบ แต่มีกองกำลังติดอาวุธ
จนพ.อ.ร่มเกล้าเสียชีวิต พร้อมทหารอีก 4 นาย บาดเจ็บ 300 กว่านาย (ในค่ำวันที่ 10 เมษายน) การต่อสู้ด้วยอาวุธสงครามจึงเกิดขึ้น โดยเขาหลอกประชาชนมาเป็นโล่กำบังให้ชายขุดดำ ซึ่งแผนดังกล่าวก็คือแก้วสามประการนั่นเอง(พรรค มวลชน และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย)
บางคนบอกว่าทำไมชายชุดดำไม่ถูกยิง ก็เพราะความใจดำ ที่หลอกเอาประชาชนมาเป็นโล่ ความสูญเสียจึงเป็นประชาชนและทหาร ถ้ามองย้อนไป คนกลุ่มนี้เคยมีอำนาจต่อเนื่อง เราก็จะพบว่าไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตยเหมือนปาก มีตั้งแต่ใช้อำนาจไม่ชอบ เป็นเผด็จการรัฐสภา โคตรโกง และโกงทั้งโคตร จังหวัดไหนไม่เลือกดูแลทีหลัง
ฆ่าตัดตอน 2500 ศพ ฆ่าที่กรือเซะ ฆ่าที่ตากใบ ความตายของพันธมิตรและกปปส. ขนาดวันที่31 ธันวาคมยังให้เป็นวันราชการเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เหิมเกริมออกกฏหมายล้างผิด สุดท้ายก็ถูกประชาชนออกมาไล่ถึง 2 ครั้ง คนกลุ่มนี้เองไม่เคยพูดสักคำต่อปัญหาที่พูดมา ยิ่งคนที่อ้างว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ก็ไม่เบากว่ากัน โดยเฉพาะโกหกเป็นอาจิณ โกหกจนนับไม่ถ้วน ขนาดเงิน 3000 บาทถ้วนหน้า จ่ายใครบ้าง จนป่านนี้ยังไม่รู้เรื่องเลย
ไม่เห็นมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขุดแต่อดีตมาสร้างความเกลียดชัง ระหว่างดึงประเทศถอยหลัง หลอกเด็กมาตาย เพื่อสร้างความรุนแรงและชิงอำนาจรัฐ กับประเทศเดินหน้า บ้านเมืองสงบสุข เดินไปสู่วิถีปกติใหม่ของสังคมไทย คนไทยจะเลือกสิ่งไหน แต่ผมเชื่อว่าสังคมมีความตื่นตัวร่วมไม้ร่วมมือสูงมาก ถ้าผ่านจุดนี้ได้ จะเป็นโอกาสดีที่ให้ประเทศไทย ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง#ไทยชนะ #ใครฆ่าพลเอกร่มเกล้า
ที่มา : เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom