พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และอดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว “พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์” ในหัวข้อ “จูบ” กับ “ม็อบ” ระบุว่า
ภาพการจูบกันกลาง สัปปายะสภา ของเด็กผู้ชาย 2คน ในขณะแถลงข่าวอีกด้วยจนเป็นภาพออกไปทั่วโลก แล้วยังมาอ้างว่า เป็นการสร้างความเท่าเทียมของความหลากหลายทางเพศนั้น กลายเป็นเรื่องที่ตกอยู่ในกระแสการวิจารณ์อย่างรุนแรง จากทุกฝ่ายทั้งกลุ่มคนรักต่างเพศ และ รักเพศเดียวกัน
ก่อนอื่นต้องทราบ และจำไส่กะโหลกไว้เลยว่า ประเทศไทยนั้นให้ความเคารพสิทธิส่วนตัว ในเรื่องทางเพศนี้สูงกว่าทุกประเทศในโลก เป็นที่ทราบกันทั่วไป แต่เนื่องจากวัฒนธรรมของไทยบังคับไว้ เรื่องนี้จึงต้องค่อยๆคลี่คลายออกไป ที่ละน้อย ซึ่งทุกคนก็ยอมรับ และก็ถือว่าเรื่องรักเพศเดียวกันนั้น เป็นเรื่องตามปกติ
ในเมื่อวัฒนธรรมไทย ยังไปไม่ถึงขนาดที่ “ความรักตามปกติของมนุษย์” คือ ผู้หญิงกับผู้ชาย จูบกันในที่สารธารณะ เหมือนทางตะวันตก ก็ยังไม่ยอมรับดังนั้นดันเอาผู้ชายกับผู้ชายมาจูบกันจึงเป็นเรื่องที่คนทุกฝ่ายรับไม่ได้ โดยเฉพาะ พวกที่รักเพศเดียว เพราะ
(1) คนที่รักเพศเดียวกัน ซึ่งเป็นผู้มีเกียรติอยู่หลายสิบคน ที่ผู้คนในสังคมนับถือ ยกมือไหว้ได้สนิทใจ คนพวกนี้เป็นคนดี มีวัฒนธรรม รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
(2) การออกมาจูบกันแบบนี้จะทำให้เด็กที่รักเพศเดียวกันมีปมด้อย โดยเฉพาะเด็กนักเรียน จะต้องถูกล้อเลียน อย่างแรงจากเพื่อนๆ โดยมีเรื่องการจูบในสภา เป็นตัวยั่วยุ
ทุกเรื่องที่ทำไม่เคยคิดถึงผลเสียต่อสังคมที่อาศัยอยู่ เคยถามตัวเองหรือเปล่า ว่าที่ทำไปถูกหรือเปล่า เหมาะสมหรือเปล่า เหมือนกับที่ ทอน นัดชุมนุมบอกว่าจุดติดแล้ว คนมากๆๆๆๆๆ แต่ไม่เคยบอกเลยว่า มีคนมาดูคอนเสิร์ตในที่ห่างไป ประมาณ100เมตรเท่านั้น คนมากันมากขนาดไหนที่จะเดินกลับในทางนั้น แม้คอนเสิร์ต จะเลิกแล้ว เลื่อนไป แต่คนไม่รู้ก็มากมาย
ทั้งเรื่องจูบ และ เรื่องม็อบ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไร้ความรับผิดชอบ จริงๆในฐานะที่เกิดมาเป็นคนไทย