จากที่ศบค.ให้เปิดห้างได้ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.หลังปิดยาวกว่า 50 วัน ตามมาตรการป้องกันระบาดโควิด-19 ทำให้ประชาชนแห่กันไป ซึ่งก็มีเสียงห่วงใยว่าต้องคัดกรองอย่างเข้ม ป้องกันตัวเองด้วยหน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์
ขณะที่ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กให้ความเห็นเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า ระบบการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้คนที่ติดเชื้อที่อาจไม่มีอาการใดๆ หลุดรอดเข้ามาในประเทศและแพร่ต่อในวงกว้าง
วันนี้ “มี” หลายรายที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ และได้รับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ล้วนตรวจพบว่าติดเชื้อแต่”ไม่มีอาการ” การ”ไม่มีอาการ”นั้น น่ากลัว เพราะผู้แพร่ก็จะแพร่ให้คนอื่นโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ผู้รับเชื้อก็จะรับมาโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
ป้องกันตัวเองให้ดีนะครับทุกคน เพราะผมเชื่อลึกๆ ว่าในประเทศก็ยังมีคนที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการอยู่บ้างไม่มากก็น้อย เพียงแต่ไม่รู้ตัว จึงไม่ได้รับการตรวจ และยากมากที่รัฐจะไปไล่ตรวจทุกคน…ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือ อยู่ห่างคนอื่นๆ…
วันแรกของการเปิดห้าง ขออย่าให้เป็น”วันแบ่งปันโควิดแห่งชาติ”เลยนะครับ ด้วยรักต่อทุกคน…สวัสดีวันอาทิตย์ครับ!!!
ขอบคุณมากครับที่ยืดการห้ามเข้าประเทศต่อไปถึงปลายมิถุนายน และต้องสังเกตการณ์ต่อว่าจะต้องยืดต่อหรือไม่ เป็นไปตามที่พยายามนำเสนอกันไปอย่างเต็มที่ ศึกนอกนั้นจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามหลักการดังต่อไปนี้…ปลดล็อคในเวลาที่เหมาะสม ตามเงื่อนไขตัวชี้วัดการคุมโรคระบาดที่กำหนด…กำหนดกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด…จัดการแบบเบ็ดเสร็จ……มุ่งเน้นความปลอดภัยทั้งต่อคนไทยและต่างชาติ
แต่ก่อนจะทำศึกนอก เราต้องจัดการศึกในให้เรียบร้อยเสียก่อน ศึกในในที่นี้ไม่ใช่แค่การสู้กับโรคโควิด-19 ตามระยะของการปลดล็อค ที่หนักหนาและมีผลต่อชะตาของประเทศอย่างยิ่งคือ “การจัดการปรับดุลอำนาจการเมืองและข้าราชการประจำ” เราวิกฤติในช่วงกุมภาถึงมีนาคมที่ผ่านมาเพราะเหตุดังกล่าวครับ
No more “ก็แค่หวัดธรรมดา”
No more “แข่งรถขณะประเทศวิกฤติด้วยโรคระบาด”
No more “หน้ากากล่องหน”
No more “ยาเสพติดรักษาทุกโรค”
“สุขภาพ…คมนาคม…ท่องเที่ยว”ไม่ควรอยู่ในมือของคนหรือก๊วนใดก๊วนหนึ่ง ที่มีโอกาสคุกคามสวัสดิภาพและความมั่นคงของประเทศครับ เราเจ็บกันมาทั้งประเทศ…เจ็บแล้วต้องจำ ถึงเวลาที่ต้องยกเครื่องแล้วครับ!!!
ที่มา : เฟซบุ๊กThira Woratanarat
ภาพ : tnews