แจงดราม่า ยายพกเงิน 2,000 พาหลานซื้อมือถือเรียนออนไลน์ ชี้เรียนได้หลายช่องทาง

0

จากกรณีมีการแชร์แสดงความคิดเห็นกันในโซเชียล เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jatupol Boriboon ได้โพสต์ภาพของยายและหลานคู่หนึ่งที่พากันมาซื้อมือถือเพื่อนำไปใช้เรียนออนไลน์ ระบุว่า ยายพาหลานเดินมาถามว่ามีโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2,000 มั้ย

เลยถามยายว่าซื้อให้น้องใช้หรอ ยายบอกว่าน้องต้องเอาไปใช้เรียนออนไลน์ แต่ยายมีเงินแค่ 2,000 สิ่งที่แนะนำยายได้ดีที่สุดคือให้ยายลองไปดูเครื่องพร้อมโปรดู แต่ยายก็ต้องมาจ่ายค่าเน็ตให้เขาทุกเดือนอีก คืออยากจะบอกว่านโยบายเรียนแบบออนไลน์มันดีครับ แต่บางคนที่เค้าไม่มีเงินจริง ๆ เขาก็เดือดร้อน

เด็กเรียนประถมส่วนใหญ่ไม่มีมือถือกันอยู่แล้ว พอต้องมาเรียนออนไลน์แบบนี้ ก็ต้องเดือดร้อนผู้ปกครอง จริงอยู่ว่ามันเรียนทางทีวีได้ แต่ถ้าบ้านเขาไม่มีทีวีล่ะครับ เผื่อเรียนเสร็จแล้วครูสั่งการบ้านแบบออนไลน์ล่ะ อยากให้เด็กได้เรียนปกติ มันคือสิ่งที่ดีครับ แต่มันจะดีกว่าถ้าผู้ปกครองไม่เดือดร้อนไปกว่านี้

ต่อมา เฟซบุ๊ก Drama-addict โพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบุว่า เพิ่มเติมประเด็น คุณยายพาหลานไปซื้อมือถือเพื่อเตรียมเรียนออนไลน์แต่ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย

คุณครูที่ทำด้านการเรียนการสอนออนไลน์ตามนโยบายนี้เลยแจ้งมาว่า ตอนนี้ข้อมูลคนเข้าใจกันผิดว่าต้องเรียนผ่านมือถือเท่านั้น จริง ๆ แล้วเป็นการเรียนกันได้หลายช่องทาง มีทั้งในแอปมือถือ และมีทั้งดิจิตอลทีวี

สามารถดูได้สามแหล่ง มี 1. โทรทัศน์ดาวเทียม ระบบ KU Band #จานทึบ ช่อง 186 – 200

2. เว็บไซต์ www.dltv.ac.th

3. บนสมาร์ทโฟน แอบพลิเคชั่น DLTV
แอนดรอยด์ : https://play.google.com/store/apps/details…
iOS : https://apps.apple.com/th/app/dltv/id1392940989?l=th

15 ช่องสัญญาณ ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยคุณครูเขาจะพิมพ์ใบงาน เตรียมการบ้านให้เด็กทำตอนดูตามสามแหล่งที่ว่า แล้วพอครบกำหนดเวลาครูก็จะไปเก็บใบงานตามบ้านเพื่อเอาไปตรวจ

ส่วนกรณีบ้านไหนเด็กไม่มีมือถือที่รันแอปที่ว่าได้ ให้ดูทางทีวี
กรณีไม่มีโทรทัศน์ดาวเทียมระบบที่ว่า หรือไม่มีคอมพ์ต่อเน็ตเพื่อดูจากเว็บไซต์ ทางกระทรวงได้ส่งแบบสำรวจไปตามบ้านของเด็กนักเรียน เพื่อสำรวจว่า บ้านไหนไม่มีกล่องรับทีวีดิจิตอล และเครื่องรับโทรทัศน์สำหรับเรียนทางไกล ถ้าไม่มีทางกระทรวงจะจัดให้ แต่ต้องใช้เวลาซักระยะ ตอนนี้ให้เด็กบ้านที่ไม่มีทีวีดิจิตอลที่รับช่องนั้นได้ ไปดูบ้านเพื่อนพลาง ๆ ก่อน

เท่าที่คุยกับครูมา เขารู้ว่า จะมีเด็กที่ครอบครัวยากจน ไม่มีทั้งมือถือและทีวีดิจิตอลให้ดูแน่ ดังนั้นเขาจะพยายามจัดหาสื่อที่ใช้เรียนออนไลน์ให้เด็ก ๆ ได้ใช้ ประมาณนี้ครับ

ส่วนกล่องดิจิตอลทีวีที่จะแจกให้บ้านของเด็กนักเรียน เห็นว่าเตรียมไว้ 1.5 ล้านกล่อง น่าจะพอไหว

ระหว่างนี้ติดขัดอะไรให้เด็ก ๆ หรือครอบครัวที่มีน้อง ๆ ที่ต้องเรียนออนไลน์ แจ้งมาเสียงดัง ๆ เลย คุณครูที่ทำเรื่องนี้เขาจะได้หาทางแก้ปัญหาให้ครับ น้อง ๆ จะได้เรียนหนังสือกันต่อแม้จะยังปิดโรงเรียนก็ตาม

ที่มา : Drama-addict และ Jatupol Boriboon