จากคืนวันที่ 10 พ.ค.63 มีกลุ่มคนยิงเลเซอร์ระบุข้อความ #ตามหาความจริง สถานที่เชิงสัญลักษณ์เกี่ยวข้องกับการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เช่น วัดปทุมวนาราม บีทีเอส อนุสาวรีย์ชัย กระทรวงกลาโหมนั้น
ต่อมาพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยกรณียิงเลเซอร์ข้อความตามสถานที่ราชการและสถานที่สาธารณะว่า ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่ากระทำเพื่ออะไร คาดว่ามีการทำเป็นกระบวนการโดยมีการนำไปขยายผลเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งอาจต้องการรำลึกถึงเหตุการณ์ต่างๆในอดีต แต่ไปพาดพิงองค์กรและสถาบันต่างๆทำให้เกิดความเข้าใจผิด
“ส่วนตัวมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะกับสถานที่ราชการ และองค์กรต่างๆ ถือเป็นการยั่วยุให้เกิดความแตกแยก ชี้นำให้เกิดความหวาดระแวงและไม่เชื่อมั่นต่อกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสังคมในสถานการณ์ของประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาท้าทายร่วมกันอยู่
หากมองว่าต้องการตามหาความจริง หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม เราทุกคนสามารถหาความจริงได้จากจากหลักฐานที่ปรากฎ หรือติดตามความคืบหน้าของคดีทางกฎหมาย ซึ่งมีขั้นตอนการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้วและกระบวนการยุติธรรม ก็ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามหลักฐาน วัตถุพยานและข้อเท็จจริงที่มี โดยคดีเหล่านี้ หลายคดีอยู่ในกระบวนการยุติธรรม บางคดีถูกตัดสินไปแล้ว บางคดีอยู่ระหว่างรอคำตัดสิน
การกระทำเช่นนี้ จึงมองว่าเป็นการแสดงออกและมีนัยยะทางการเมืองแอบแฝง โดยต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดกับสถาบันและองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายความมั่นคงกำลังติดตามและพิจารณาทางกฏหมายอยู่ คาดว่าสามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ไม่ยากจนเกินไป”
ล่าสุดวันนี้(12พ.ค.63) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคณะก้าวหน้าโพสต์เฟซบุ๊กระบุคนฉายแสงส่องหาความจริงคือประชาชน หลังมีการยิงเลเซอร์ข้อความ#ตามหาความจริง ในสถานที่เชิงสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงปี 53 ซึ่งการยิงเลเซอร์ข้อความดังกล่าวจะมีความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ ว่า เดี๋ยว เจ้าหน้าที่กำลังดูอยู่ เมื่อถามว่า เป็นลักษณะของการแสดงสัญลักษณ์ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่ เมื่อถามว่า มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการกระทำของคณะก้าวหน้าหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ยังไม่รู้ กำลังดูอยู่
ขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้สั้นๆจากที่คณะก้าวหน้ายอมรับว่าเป็นผู้ยิงข้อความเลเซอร์ #ตามหาความจริง ที่ตึกของกระทรวงกลาโหมว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องไปดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้เฟซบุ๊คคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ ข้อความระบุว่า พ.ค.35/53 ความจริงต้องปรากฏ ถีบลงเขาเผาลงถังแดง 14 ตุลา 6 ตุลาพฤษภา’ 35′ พฤษภา’ 53′ กี่ครั้งที่ประชาชนมือเปล่า ถูกสังหารอย่างเลือดเย็น กี่ครั้งที่ผู้ฆ่าและผู้สั่งฆ่าไม่เพียงไม่รับโทษ แต่ยังเติบใหญ่ในเส้นทางอำนาจ
ทุกครั้งที่ความจริงถูกทำให้เลือนหาย ความยุติธรรมไม่เคยมาถึง พอกันทีกับการขอเพียงมีอำนาจ ล้นฟ้าจะลงมือฆ่าคนเป็นร้อยก็ไม่ผิด ฝากไปถึงผู้มีอำนาจว่า ไม่ต้องตามหาให้เหนื่อยแรงอีกต่อไป ว่าใคร คือคนที่ฉายแสงสว่างเพื่อส่องหาความจริง ไม่ใช่ใครที่ไหนพวกเราคือประชาชน คนธรรมดาที่ร่วมกัน #ตามหาความจริง
ด้าน ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ ถึงกรณีดังกล่าวด้วย โดยแชร์ข้อความต่อมาจากนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้โพสต์ข่าวจากสื่อที่ระบุว่า กลาโหมสั่งเอาผิด
จะเอาผิดข้อหาไรได้อะ .. ยิงแสงใส่ตึก แล้วทำให้ทหารใจสั่น?
โดยข้อความจากทวีตเตอร์ของนายวัฒนา โพสต์ว่า
สั่งเอาผิดคนยิงเลเซอร์ แต่ไม่สนใจทหารที่ยิงหัวประชาชน
ที่มา : ทวิตเตอร์ Bow Nuttaa Mahattana @NuttaaBow , watanamuangsook @ watanamuangsook
เฟซบุ๊ค : คณะก้าวหน้า