จากที่ตู้ปันสุขเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ต่อมาเกิดภาพคนบางคนหยิบสิ่งของในตู้ไปเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าควรเหลือไว้บ้าง เอาไปอย่างเพียงพอ ซึ่งเรื่องนี้ได้ถูกพูดถึงในสังคมเกือบทุกแวดวงรวมทั้งหมอจิตแพทย์!?!
ล่าสุดวันนี้(12พ.ค.63) นายแพทย์กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล หรือ หมอแดน จิตแพทย์ชื่อดัง ได้ออกมาให้ความคิเห็นต่อเรื่องตู้ปันสุขที่กำลังเป็นประเด็นพูดถึงกันเป็นอย่างมากในขณะนี้ว่า .. วันก่อนมีเพื่อนแชร์เรื่องของตู้กับข้าว ตู้ปันสุขตามที่ต่างๆทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมาให้ดู…. เห็นแล้วก็รู้สึกปลื้มปริ่มน้ำตาซึม
…. ความคิดแว่บแรกตอนนั้นก็คือ…. เดี๋ยวมีจังหวะมีโอกาสจะไปซื้อของมาช่วยใส่ไว้บ้าง…. รู้สึกว่าได้ทำบุญแล้วมีความสุขจังเลย… แล้วก็คิดว่าหลายคนก็คงรู้สึกเหมือนกับเรา ผ่านมาอีกวันนึงเพื่อนก็เอารูปมาให้ดูอีกที่นึง… จังหวัดแห่งหนึ่งในประเทศไทย…. มองแว๊บๆเห็นเหมือนมีขนมขบเคี้ยวอยู่ด้วย…. ก็เลยบอกและแสดงความคิดเห็นไปว่า….
…. จริงๆแล้ว “ตู้กับข้าว ตู้ปันสุข” ควรจะมีจุดประสงค์สำหรับการช่วยเหลือและแบ่งปันน้ำใจกันในยามที่ลำบากจริงๆ…. ควรจะเอาของที่จำเป็น “เพื่อการดำรงชีวิต” ไปใส่ไว้ ถ้าเอาพวกขนม ของทานเล่นหรือของที่ไม่จำเป็นในยามนี้ ไปใส่ไว้… เดี๋ยวสุดท้ายพวกขี้เมาก็เอาไปเป็นกับแกล้มไม่ต้องซื้ออีก….กลายเป็นสนับสนุนพฤติกรรมไม่เหมาะสม
… มาดูข่าวนี่เลยครับ… https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000048982 เราไม่อยากดูถูกคนไทยบางจำพวกนะ เห็นหลายทีแระ เรื่องแย่งกัน ทำร้ายร่างกายกันเนี่ย และก็เห็นว่าเพราะคนไทยจำนวนมากที่เป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จริงๆ เวลาที่บริจาคก็บริจาคกันเยอะมากๆ อาจจะมากกว่าชาติใดๆในโลกเลยล่ะ เขาอยากจะร่วมกันทำสิ่งดีๆให้ผู้ที่ลำบาก
… ส่วนผู้รับ… ผมก็เห็นว่าในภาวะที่ตึงเครียดแบบนี้อย่างน้อยได้มีอาหารรับประทานรองท้อง… ก็คงจะช่วยแบ่งเบาความเครียดไปได้เยอะ…. แต่ถ้าประเภทเอาของมาวางปุ๊บแย่งกันเบียดเสียดกันแล้วเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคระบาด…. อันนี้ผมว่าไม่ใช่แระ… มันไม่น่าจะเกี่ยวกับความอดอยากแล้วล่ะครับ….
… ภาษาใต้เรียกว่า ‘ตายอดตายอยาก” มาจากไหน??? อันนี้ส่อสันดานนิสัยที่ไม่ดีครับ…เคยเห็นข่าวจากคนดีๆหลายคนที่ลำบากมากๆ ถึงแม้จะอดอยากขนาดไหนก็ยังพยายามเชื่อฟังและปฏิบัติตามกฎของสังคม… ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ… ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆครับ
… ข่าวนี้… สุดท้ายก็อาจจะเสี่ยงตายกันง่ายๆ เพราะเบียดเสียดแย่งกันขนาดนั้น ก็เสี่ยงติดโรคครับ…
…. แล้วสุดท้ายโครงการนี้ก็คงจะพังพับไปในที่สุด
#รู้สึกผิดหวัง #socialdistancing ที่ล้มเหลว…
ที่มา : เฟซบุ๊กนพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล (Kampanart Tansithabudhkun, M.D.)