ไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เริ่มรักษาระยะห่างกับผู้คน หลังเลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของเขามีผลตรวจโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นบวก
ดิ แอสโซซิเอตเต็ด เพรส อ้างอิงคำกล่าวของเดวิน โอมัลลีย์ โฆษกของเพนซ์ ระบุว่า “รองประธานาธิบดีเพนซ์จะปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานการแพทย์ของทำเนียบขาวต่อไป โดยเพนซ์ไม่ได้เข้ารับการกักกันตัว”
“รองประธานาธิบดีเพนซ์มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบทุกวัน และจะไปที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ (11 พ.ค.)” โอมัลลีย์กล่าว
ดิ แอสโซซิเอตเต็ด เพรส และบลูมเบิร์ก นิวส์ เรียกมาตรการป้องกันของเพนซ์ว่า “การโดดเดี่ยวตนเอง” ขณะที่เอ็นบีซี นิวส์ (NBC News) อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่ง ซึ่งกล่าวว่า “มาตรการเฝ้าระวังของเพนซ์ไม่ใช่การโดดเดี่ยวตนเอง เพราะไม่มีการระบุข้อจำกัดในกำหนดการของเขา”
เอ็นบีซี นิวส์ รายงานคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ซึ่งระบุว่ารองประธานาธิบดีจะ “ไม่ปรากฎตัวมากนักในช่วงสองสามวันข้างหน้านี้”
เพนซ์ ซึ่งเป็นผู้นำกองปฏิบัติการรับมือกับโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ คนล่าสุด ที่ดำเนินมาตรการจำกัดตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงการติดต่อทางสังคม เนื่องจากเคที มิลเลอร์ (Katie Miller) เลขาธิการด้านสื่อมวลชนของเขา มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก เมื่อวันพฤหัสบดี (7 พ.ค.)
นอกจากมิลเลอร์แล้ว เจ้าหน้าที่ส่วนตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้ช่วยของอิวานกา ทรัมป์ (Ivanka Trump) บุตรสาว และที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ มีผลตรวจโรคเป็นบวกเช่นกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่อาวุโส
แอนโทนี เฟาซี สมาชิกกองปฏิบัติการรับมือโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว โรเบิร์ต เรดฟีลด์ (Robert Redfield) ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ และสตีเฟน ฮาห์น (Stephen Hahn) กรรมาธิการขององค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ต่างเข้ารับการกักกันตัวในรูปแบบต่างๆ
ด้านทรัมป์ ซึ่งเข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 ทุกวัน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (8 พ.ค.) ว่าเขา “ไม่รู้สึกกังวล” เกี่ยวกับโอกาสที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในกลุ่มคนใกล้ตัว และเสริมว่าทำเนียบขาวได้ดำเนิน “มาตรการเฝ้าระวังที่แข็งแกร่ง”