จากกรณีเชิญผู้เกี่ยวข้องให้ถ้อยคำต่อกรรมาธิการสภาฯ แต่ปรากฏว่า ไม่มีคำตอบที่สังคมสงสัยเกี่ยวกับการรักษานายทักษิณ ทำให้ล่าสุดมีการเชิญคนที่เป็นตัวละครสำคัญโดยตรง ซึ่งต้องจับตาว่าจะกล้าเผชิญหน้าความจริงในเรื่องนี้หรือไม่
โดยเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานจากรัฐสภาว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. ได้มีหนังสือนัดประชุม กมธ. เพื่อพิจารณาเรื่องการตรวจสอบกรณีที่กรมราชทัณฑ์ให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ กับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 09.30 น.
“กำหนดการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อกมธ.ได้แก่ นายทักษิณ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, อธิบดีกรมราชทัณฑ์, พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นพ.ใหญ่ รพ.ตำรวจ, นายวัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์, น.ส.รวมทิพย์ สุภานันท์ นพ.ชำนาญพิเศษ รพ.ราชทัณฑ์, นายวิชัย วงศ์ชนะภัย ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา และ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ” รายงานข่าว ระบุ
ทั้งนี้รายงานยังระบุว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการตรวจสอบเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่การตรวจสอบในครั้งแรก พบข้อมูลที่ กมธ.ติดใจ คือ มาตรฐานการรักษาในเรือนจำ รวมถึงการส่งตัวผู้ต้องขังที่ป่วย และวินิจฉัยโดยพยาบาลว่าป่วยหนักถึงขั้นที่ต้องส่งตัวไปรักษาต่อ อีกทั้งยังไม่พบรายละเอียดของการรักษา และการบันทึกภาพใน รพ.ตำรวจ ที่เป็นไปตามมาตรฐานการดูแลนักโทษนอกเรือนจำ
ล่าสุดวันนี้ (13 พ.ย. 67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์คลิป พร้อมเนื้อหาผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า “ชกตรงเป้า หนุน โรม นำทักษิณ ขึ้นเขียง
นับว่าเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ของคณะกรรมาธิการชุดนี้ ที่พิจารณาเรื่องเกี่ยวกับนายทักษิณป่วยจริง หรือป่วยทิพย์กันแน่ ซึ่งหลังจากการประชุมคณะกรรมาธิการครั้งแรกไปแล้ว ได้มีหมอและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์มาชี้แจง ถูกซักถามในที่ประชุม จนไม่สามารถตอบคำถามได้เลย
แสดงให้เห็นถึงความมีพิรุธในเรื่องนี้หลายประเด็น ถ้าเป็นความจริงจะไม่มีปัญหาในการตอบคำถามเลย แต่เมื่อเป็นการเติมแต่งคำตอบ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จนเห็นอาการของคนที่มาชี้แจงอึดอัดในการตอบอย่างน่าสงสาร เพราะเป็นแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือข้าราชการชั้นผู้น้อย ตอบอะไรผิดพลาดไป ก็อาจกระทบต่อหน้าที่การงานทางราชการได้
แต่ในครั้งนี้คณะกรรมาธิการได้เชิญผู้เกี่ยวข้องตัวจริงเข้ามาชี้แจง และเห็นว่าเป็นการเชิญที่ตรงเป้าหมายมาก ก็คือเชิญนายทักษิณ ตัวปัญหาที่แท้จริงมาชี้แจงให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้ซักถาม แต่เชื่อว่านายทักษิณจะไม่กล้ามาตามคำเชิญอย่างแน่นอน เพราะไม่กล้าเผชิญความจริง และกลัวจะถูกคณะกรรมาธิการอย่างเช่น นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ซึ่งเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการแพทย์เป็นอย่างดี ซักถามจนสามารถที่จะค้นหาความจริงได้ ว่าป่วยจริงหรือทิพย์กันแน่
ผมสนับสนุนการทำหน้าที่ของนายรังสิมันต์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯอย่างเต็มที่ ต้องตรวจสอบค้นหาความจริงให้ได้ว่า นายทักษิณป่วยจริงหรือเปิดทิพย์ เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว และอย่าให้สังคมคลางแคลงใจ หรือตั้งข้อสงสัยว่าผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย กับผู้นำจิตวิญญาณของพรรคประชาชน มีความสัมพันธ์ที่ดีหรือมีดีลลับทางการเมืองต่อกัน
นายรังสิมันต์ ควรใช้โอกาสนี้พิสูจน์ให้สังคมเห็นว่า พรรคประชาชนเป็นพรรคฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา ไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น จะเรียกความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคประชาชนกลับคืนมาได้”
อย่างไรก็ตามทีมข่าว THE critics ตรวจสอบถึงความเคลื่อนไหวอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ด้วย นั่นก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นขอให้สั่ง นายทักษิณ ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49
โดยองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะหยิบยกคำร้องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาในการประชุมในวันที่ 22 พฤศจิกายนว่า จะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยหรือไม่
#ทักษิณ #อธิบดีกรมคุก #รพ.ตร. #ทวี #กมธ.มั่นคง #นช. #ธีรยุทธ #เทพไท #พ.ต.อ.ทวี #ศาลรธน. #เพื่อไทย #ล้มล้างการปกครอง