จากกรณีพิพาทระหว่างกรมที่ดินกับการรถไฟฯ ในเรื่องที่ดินเขากระโดง จนลุกลามบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคและ2วงศ์ตระกูล ซึ่งมีคนจะฟ้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งพิรุธเมื่ออธิบดีกรมที่ดินลาออกก่อนหน้านี้!?!
ล่าสุดวันนี้ 13 พฤศจิกายน 2567 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวว่า “เตือนอนุทินระวังซ้ำรอยยิ่งลักษณ์
ในกรณีที่ศาลฎีกาและศาลปกครองสูงสุดพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟ และให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ให้เป็นของการรถไฟ ต่อมานายทรงศักดิ์ ทองศรี แกนนำของพรรคภูมิใจไทยแถลงว่าเรื่องที่ดินเขากระโดงจบแล้วและจะไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคเพื่อไทย แถลงว่าคำพิพากษาของศาลสูงสุดผูกพันส่วนราชการและเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ว่ากรรมสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่เป็นของการรถไฟ กรมที่ดินต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินนั้นตามคำพิพากษา โดยกระทรวงคมนาคมได้สั่งการการรถไฟให้ดำเนินการเรื่องนี้เพื่อเอาที่ดินเขากระโดงกลับมาเป็นของการรถไฟและไม่ยอมให้สูญเสียแม้แต่ตารางวาเดียว
นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงว่าจะไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ตามกรมที่ดิน
ในเรื่องนี้เมื่อศาลสูงสุดพิพากษาแล้วก็ต้องดำเนินการตามคำพิพากษานั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงมีหน้าที่ต้องสั่งการตามกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดินมาตรา 20 ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ให้เป็นของการรถไฟ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ
การไม่สั่งเพิกถอนเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งเป็นกรณีซ้ำรอยอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ซึ่งถูกศาลพิพากษาจำคุกเพราะละเว้นปฏิบัติหน้าที่แบบเดียวกันนี้ ดังนั้นจึงต้องตระหนักสังวรไว้ว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายมิฉะนั้นก็จะเสียใจในภายหลังและอย่าหาว่าไม่เตือน”
ขณะที่ ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความ หัวข้อ ยุคนักการเมืองชั่ว โดยมีเนื้อหาดังนี้ ผมไม่อยากใช้คำพูดนี้ แต่จำเป็นครับ สำหรับนักการเมืองที่ดีท่านคงเข้าใจ เรื่องที่ดินเขากระโดง ที่ต้องใช้เวลาดำเนินคดีมายาวนาน ก็เกิดจากลุ่มนักการเมืองชั่ว ร่วมมือกับข้าราชการชั่ว สรุปว่าเอกสารพยานหลักชัดแจ้ง นับตั้งแต่ศาลฎีกามีคำพิพากษา
แทนที่การรถไฟจะไปขอบังคับคดีตามคำพิพากษา แต่ด้วยในขณะนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีคมนาคม การรถไฟ จึงยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง ต้องใช้เวลา 2 ปี กว่าจะมีคำพิพากษา และคำพิพากษาให้ตั้งคณะกรรมการทำการตรวจสอบแนวเขต ตามคำพิพากษา ศาลฎีกาและของคณะกรรมการกฤษฎีกา มิใช่ไปหาพยานหลักฐานมาคัดค้านคำพิพากษา
การที่กรมที่ดิน มีมติไม่เถิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และแจ้งว่า หากการรถไฟมีสิทธิในที่ดินก็ไปฟ้องศาล ทั้งที่ กรมที่ดินมีภารหน้าที่ ในการคุ้มครองคอยดูแลรักษาที่ดินของรัฐทุกประเภท นี่คือการถ่วงเวลา และทำให้เห็นความชั่วร้ายของ นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐหรือยังครับ
เรื่องมิได้ยุติแค่นี้นะครับ หากเรื่องจะต้อง ส่ง ปปช. หรือ ส่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ผมก็ไม่แน่ใจว่าคดีนี้ จะยุติลง เพราะนับตั้งแต่นี้ กรรมการ ปปช. และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก สว.ชุดนี้ ที่ขนาด รองประธานวุฒิ ยังไปแจวเรือ ให้รัฐมนตรีนั่ง นี่คือ ยุควงจรอุบาทว์ทางการเมืองครับ
แต่ถึงอย่างไรผมก็จะใช้ความรู้ทางกฏหมาย และพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลพวกนี้จนถึงที่สุดเพื่อแก้ไขในสิ่งผิดและตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน
นอกจากนี้ในวันเดียวกันทวิตเตอร์ THE STANDARD ได้โพสต์คลิปการสัมภาษณ์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โดยตั้งหัวข้อว่า “สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ฉายภาพอธิบดีกรมที่ดินลาออก เพราะเชื่อมโยงเรื่องเขากระโดงที่โยงปมการเมืองภูมิใจไทยได้”
ทั้งนี้ทีมข่าว THE critics ได้ตรวจสอบคลิปรายการ โดยถอดเทปที่ THE STANDARD นำมาเผยแพร่ไว้ 42 วินาที ก็พบเนื้อหาในช่วงเวลาดังกล่าวระบุว่า
“การที่อธิบดีกรมที่ดินลาออก ก่อนหน้านี้อธิบดีคนก่อนลาออก บอกว่าจะไปดูแลภรรยา ที่เจ็บไข้ได้ป่วย แตาคนไม่คิดแบบนั้น คนก็คิดว่า อธิบดีกลัวติดคุก เพราะถ้าทำตามฝ่ายการเมืองติดคุก ลาออกก่อนดีกว่า ปลอดภัยกว่า
ฉะนั้นตรงนี้ฝ่ายการเมืองเอง ไม่ว่าคุณจะถูก หรือคุณจะผิดก็แล้วแต่ คุณต้องชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ ถ้ากรมที่ดินถูกก็ต้องชี้แจงในรายละเอียดให้ชาวบ้านรู้เรื่อง ว่าปัญหาของการรถไฟ ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเพราะอะไร เหตุผลมีอะไรบ้าง มาชี้แจงกัน ไม่ใช่ประเภทว่า ไม่เพิกถอนก็จบ ไม่จบหรอกครับ เพราะวันนี้การรถไฟก็จะฟ้องกรมที่ดิน” นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ THE critics ยังตรวจสอบต่อไปถึงกรณีการลาออกของอธิบดีกรมที่ดินว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไรก็พบว่า เมื่อวันที่ 05 ตุลาคม 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี นายชยาวุธ จันทร ได้ยื่นหนังสือลาออกจากอธิบดีกรมที่ดินว่า นายชยาวุธ ได้แจ้งการลาออกมาที่ตนเองว่าต้องการลาออกก่อนเกษียณ 1 ปี โดยให้เหตุผลว่าเพื่อไปดูแลครอบครัว
เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้มองกันว่ามีกระแสกดดันทางการเมือง เกี่ยวกับกรณีที่ดินพิพาทเขากระโดงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รับประกันว่าไม่มี อย่าไปพูดแบบนั้นเด็ดขาด ไม่มีความกดดันใดๆ
28 พฤศจิกายน 2566 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น เซ็นอนุมัติใบลาออกจากราชการของ นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 โดยการลาออกในครั้งนี้ นายชยาวุธได้ให้เหตุผลว่า เพื่อดูแลสุขภาพตนเองและภรรยา
ก่อนนี้ เมื่อเดือนตุลาคม 2566 นายชยาวุธ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งอธิบดี และแจ้งความประสงค์จะลาออกก่อนเกษียณเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อไปดูแลคนในครอบครัว แต่ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ขอให้นายชยาวุธ ทบทวนเรื่องการตัดสินใจลาออก
#เขากระโดง #อนุทิน #ติดคุก #อธิบดีกรมที่ดิน #การเมือง #ยิ่งลักษณ์ #มท. #สมชัย #ไพศาล #ณฐพร #เนวิน #ศักดิ์สยาม #ม.157 #ละเว้นปฏิบัติหน้าที่