เปิดเบื้องลึก บิ๊กโจ๊กอาสาเป็นพยานคดีชั้น14 โดนตอกกลับหงายเงิบ ที่แท้จะช่วยทักษิณ-ขุดแฉเละสนิทบ้านจันทร์ฯ ทาสเก่า

0

จากที่วันนี้ 11 พฤศจิกายน จะครบกำหนด 15 วัน ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ทำหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด เพื่อขอทราบการดำเนินการที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ได้ยื่นให้วินิจฉัย รวมทั้งคดีชั้น14ที่มีนายตำรวจออกมาล่าสุดพร้อมเป็นพยาน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการกฎหมายอิสระ และอดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เปิดเผยว่าหกประเด็นตามคำร้องของนายธีรยุทธ ที่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ คิดว่าประเด็นที่มีน้ำหนัก น่าจะเป็นประเด็นเรื่องที่แกนนำพรรคการเมืองไปคุยกับนายทักษิณ ชินวัตรเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม
“ส่วนประเด็นแรก (เรื่องนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1ได้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ) เป็นเรื่องส่วนตัวของนายทักษิณ ที่จะไปโดนคดีอาญาหลังจากนี้ ที่ไม่ใช่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ไม่ได้เกี่ยวกับการยุบพรรค เป็นเรื่องเฉพาะตัวของนายทักษิณ
เรื่องนี้ผมยังมองว่ายังไม่หนักเท่าประเด็นที่4 (กรณี ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการแทน ผู้ถูกร้องที่ 2 ในการเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการเสนอบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1 บ้านจันทร์ส่องหล้า) ที่ครอบงำพรรคการเมือง 5-6 พรรคที่เข้าไปประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพราะเรื่องนี้ไม่ได้กระทบแค่พรรคเพื่อไทยพรรคการเมืองเดียว แต่กระทบไปถึงพรรคการเมืองอีก 5-6 พรรค” นายคมสัน ระบุ
ขณะที่ในวันเดียวกันนี้ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า
“บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ประสานมาบอกว่า ยินดีที่จะไปเป็นพยานในคดีที่ คปท.ร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีชั้น 14 ตอนนั้นบิ๊กโจ๊กเป็น รอง ผบ.ตร ฝ่ายความมั่นคง ดูแลรับผิดชอบความมั่นคง เคยไปพบ ทักษิณ ชั้น 14 และยินดีจะเป็นพยานในศาลรัฐธรรมนูญอีกคดี คปท.ได้แต่บอกว่าให้ความจริง มันเป็นความจริงครับ”
โดยเมื่อข้อความดังกล่าวของนายพิชิต เผยแพร่ออกไปก็ปรากฏว่ามีบุคคลเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ให้ระวังบิ๊กโจ๊ก ไม่อาจเชื่อถือได้ ซึ่งบางข้อความระบุไว้ว่า เช่น
“ถ้าพี่โจ๊กเอาเรื่องนี้ต่อรองกับทักษิณละครับ พูดจากดำเป็นขาว”
“คิดเหมือนกันเลยอย่าไว้ใจคนคนนี้ ทาสเก่าทักษิณ”
“จะมีอะไรมาช่วยผู้บังคับใช้กฎหมายโดยสุจริตชอบ? ฤาผู้บิดเบือนกฎกติกาโดยทุจริตมิชอบ?ได้ดียิ่งไปกว่าจิตสำนึกกลับใจรับผิดชอบต่อปท.ชาติ ปชช.ได้มากไปกว่าจิตไร้สำนึกฯที่สุดเล่า?”
“ทำไมรู้สึกว่าเหมือนโจ๊กกำลังหาพวกเพื่อต่อรองอะไรบางอย่าง
“อย่าไว้ใจบิ้กโจ้ก กลับไปกลับมาได้ตลอด มีความลับอะไรอย่าไว้ใจคนคนนี้ หากมาเป็นพยานให้จริงๆ ก็คงผิดหวังทักษิณที่ไม่ได้ช่วยอะไรบิ้กโจ้ก ไม่ยังงั้นคงไม่เห็นภาพบิ้กโจ้กไปรับทักษิณถึงประตูรถตอนไปเชียงใหม่ ไหว้สวยโค้งหัวเกือบถึงดินเป็นที่ขำ”
อย่างไรก็ตามทีมข่าว THE critics ตรวจสอบไปเมื่อวันที่ 07 พฤศจิกายน 2567 ก็พบว่าที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงของรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดยได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวเข้ามาให้ข้อเท็จจริงด้านกระบวนการยุติธรรมที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่
สำหรับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ, น.ส.รามทิพย์ สุภานันท์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และรศ.วิชัย วงศ์ชนะภัย ผู้ช่วยเลขาธิการแพทย์สภา ไม่ได้มา เนื่องจากแจ้งว่าติดภารกิจ ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยืนยันว่าจะเข้าร่วม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้มาร่วมประชุม

#บิ๊กโจ๊ก #พยานคดีชั้น14 #ทักษิณ #บ้านจันทร์ส่องหล้า #ทาสเก่า #คุณหญิงอ้อ #โรม #รพ.ตร. #เสรีพิศุทธ์ #คปท. #พิชิต #นายแพทย์ใหญ่