จากที่มีรายงานถึงการปฏิเสธการรักษานายทักษิณ ชินวัตร ทั้งแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลตำรวจและราชทัณฑ์ นำมาซึ่งพิรุธต่างๆที่คาดว่าสามารถเอาผิดผู้เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด โดยสถานการณ์ยิ่งทำให้สถานภาพรัฐบาลเสื่อมทรุดยิ่งขึ้นไปด้วย
ล่าสุดวันนี้ 09 พฤศจิกายน 2567 เฟซบุ๊ก Jatuporn Prompan – จตุพร พรหมพันธุ์ ได้โพสต์คลิปวีดีโอรายการ พร้อมทั้งข้อความถึงกรณีนี้ว่า
เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ตำหนิ โรงพยาบาลตำรวจและเรือนจำพิเศษกรุงเทพ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามปกปิด บิดเบือนข้อเท็จจริงอาการป่วยวิกฤตพักรักษาชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เท่ากับปล้นความยุติธรรมไปจากมาตรฐานความเท่าเทียมของมนุษย์ในสังคมไทย
“คุณคิดว่า ปล้นความยุติธรรมไปได้แล้วมันจะจบลงเหรอ ยังเหลืออีกหลากหลาย คุณจะเจอของหนักกว่านี้อีกจะบอกให้ และเท่ากับเปิดประตูให้อำนาจนอกระบบอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเขารออยู่แล้ว หรือต้องเจอกับประชาชนก่อน ถ้าไม่ถูกต้องก็คือความไม่ถูกต้อง ดังนั้นขั้นตอนรับคำร้องไว้พิจารณา มันผิดปกติไปตั้งแต่ถามไปสำนักอัยการสูงสุดแล้ว” นายจตุพร กล่าว
ทั้งนี้ นายจตุพร ยังกล่าวถึงพิรุธของเจ้าหน้าที่เรือนจำไปให้ถ้อยคำกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯสภาผู้แทนว่า โดยปกติแล้ว เรือนจำพิเศษกรุงเทพจะส่งตัวนักโทษไปรักษาภายนอก ต้องมาโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน ในกรณีนายทักษิณเมื่อเข้าเรือนจำได้นำตัวไปคุมขังในอาคารชั้น 2 ห้องพยาบาลหรือไม่ แม้วันนั้นมีข่าวปล่อยว่า ไปอยู่ห้องผู้บัญชาการเรือนจำ ซึ่งตนไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่เรือนจำมีสภาพสว่างตลอด 24 ชั่วโมงและมีกล้องวงจรปิดจับภาพทุกจุดอยู่แล้ว
นายจตุพร กล่าวว่า คนที่ผ่านเรือนจำเห็นพิรุธทั้งสิ้น แต่สงสัยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ว่า แค่หลักฐานนักโทษป่วยวิกฤต และพยาบาลโทรปรึกษาแพทย์ยังหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ซึ่งในเรือนจำห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ ใช้ได้แต่โทรศัพท์สายภายในไว้กดรับสายและโทรออก ดังนั้นจึงไม่เห็นภาพนักโทษป่วยแบบวีดีโอคอลผ่านมือถือ สิ่งสำคัญ เรือนจำห้ามผู้คุม และพยาบาลนำโทรศัพท์มือถือส่วนตัวเข้าไปในเรือนจำด้วย
“การนำนักโทษข้ามรพ.ราชทัณฑ์ไปรพ.ตำรวจนั้น ดุลพินิจของพยาบาลจะถูกนำมาใช้ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่เป็นข้อเท็จจริงเพราะพยาบาลไม่มีศักยภาพที่จะรับผิดชอบ และในสัปดาห์หนึ่งแพทย์จะเข้ามาห้องพยาบาล ไปรักษาในแดนเรือนจำแค่วันหรือสองวันเท่านั้น เรื่องนี้ผมเห็นใจพยาบาลทำหน้าที่ในเรือนจำที่ถูกชัดทอด ถูกอ้าง”
นายจตุพร กล่าวว่า ความเป็นจริงแล้วการไปรักษาโรงพยาบาลนอกเรือนจำ ต้องส่งนักโทษป่วยให้แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์วินิจฉัยก่อน ซึ่งระดับนายทักษิณ ยิ่งต้องรวดเร็ว จากเรือนพยาบาลไป รพ.ราชทัณฑ์ และมีแพทย์ประจำอยู่ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาทีก็ถึง เพราะอาคารติดกัน
“ถ้า ทักษิณ อยู่อาคารเรือนพยาบาลจริงจะต้องมีการบันทึกภาพ ยิ่งใช้ดุลพินิจ 4 นาทีอย่างไรก็ต้องเห็นภาพ และที่สำคัญคุยโทรศัพท์ กับแพทย์ ที่ไม่เห็นอาการนั้น 4 นาที คุยรู้เรื่องเหรอ
กล้องวงจรปิดในเรือนจำเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นโอกาสจะเสียเหมือนรพ.ตำรวจ จึงยากที่สุด แทบเป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้ากล้องเสียฉับพลันต้องซ่อมโดยเร่งด่วน ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย เพราะควบคุมนักโทษไม่ได้
ดังนั้น แค่จุดเริ่มต้นนี้ ย่อมรู้ได้ว่า การกล่าวอ้างป่วยเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ ด้วยการดูภาพนำตัวไปส่งรพ.ตำรวจ แต่โดยหลักแล้ว พยาบาลเข้าเวรและไม่ใช่หัวหน้าพยาบาล ซึ่งไม่ใช่แพทย์ ต้องส่งคนป่วยไป รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ถ้าเกินกำลังรักษาจึงส่งไป รพ.ตำรวจ”
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ยังกล่าวว่า ถ้าไม่ป่วยวิกฤต สามารถเดินเหินสะดวกสบายนั้น ไม่สามารถอยู่รพ.ตำรวจได้นานนับเดือน อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ปรากฎออกมา หากไม่เป็นความจริงแล้ว ทำไมโรงพยาบาลตำรวจและราชทัณฑ์ เงียบกริบ ไม่เรียงหน้าออกมาโต้ นอกจากนี้ในชั้นการตรวจสอบของ คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ของสภา ยังส่งตัวแทนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงมาชี้แจงอีกด้วย สิ่งนี้แสดงถึงข้อพิรุธร่วมมือกันปกปิดความจริง
สิ่งสำคัญ คนป่วยวิกฤตอยู่ รพ.ตำรวจ 181 วัน แพทย์จะเข้ามาดูอาการวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 รอบ ดังนั้น เวชระเบียนจึงต้องถูกบันทึกการรักษาอย่างละเอียดที่สุด ถ้าในบันทึกทักษิณไม่ได้ป่วยขั้นวิกฤตแล้ว คงมีปัญหาตามมากันระนาว
วันนี้พรรคประชาชนมาตรวจสอบ แม้จะล่าช้าไป แต่ต้องขยี้เอาความจริงและผู้เกี่ยวข้องให้ปรากฎมาให้ได้ ขออย่าทำเพียงโฉบไป เฉี่ยวมา และที่สำคัญเอาคนนอกจากราชการ และคนไม่รู้เรื่องมาให้ถ้อยคำทำไม เสียเวลา ไม่ได้อะไร แล้วก็จบกันแบบเดิมๆ”นายจตุพร กล่าว
สำหรับสำนักอัยการสูงสุด (อสส.) นายจตุพร กล่าวว่า แม้มีข่าวปล่อยออกมากรณีของนายทักษิณแต่ก็มีข่าวลืออัยการสูงสุดปฏิบัติหน้าที่อีกด้านที่ไม่ดี สมมติถ้าอัยการสูงสุด มีความเห็นต่างจากศาลรัฐธรรมนูฯ ซึ่งวันที่ 11 นี้ ต้องส่งเอกสารตามที่ศาลไว้สั่งด้วย
#อดีตนักโทษ #เรือนพยาบาล #รพ.ราชทัณฑ์ #วงจรปิด #ทักษิณ #อสส. #จตุพร #นช. #อัยการสูงสุด #รพ.ตร. #แพทย์ #พยาบาล