จากที่มีกระแสคัดค้านฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีรายงานถึงการส่งนายกิตติรัตน์เข้าไปนั่งในตำแหน่งสำคัญ ก่อกระแสต่อต้านลุกลาม มีการย้อนพฤติกรรม และเหตุการณ์ขับไล่ของมวลชนก่อนหน้านี้ด้วย
โดยเมื่อวันที่ 01 พฤศจิกายน 2567 ได้มีจดหมายเปิดผนึกจากอดีตพนักงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย จรรยาบรรณที่พึงมีสำหรับตำแหน่งประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนระบุว่า “ตามที่คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคัดเลือกประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ในคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทยอีก 2 ท่าน ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้คณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีความสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเข้าดำรงตำแหน่ง เพื่อให้ ธปท. สามารถดำเนินพันธกิจของธนาคารกลางตามที่กำหนดไว้
พวกเราในฐานะอดีตพนักงาน ธปท. ขอเรียนยืนยันว่า คณะกรรมการ ธปท. มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางกรอบ และกำหนดนโยบายของ ธปท. โดย ธปท. ถือเป็นหน่วยงานของรัฐในรูปแบบองค์กรที่ต้องปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง เพื่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ การเงินที่มีเสถียรภาพต่อเนื่องในระยะยาว และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและทั่วถึง
ต้องปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณขั้นสูงสุดที่เป็นข้อบังคับ ธปท.ว่าด้วยจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของกรรมการในคณะกรรมการ ธปท. พ.ศ. 2553 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในข้อ 4.5 ที่ไม่กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ข้อ 4.7 พึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม เป็นกลางทางการเมือง และไม่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม และ ข้อ 4.11 พึงเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงตน รักษาชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของ ธปท.”
ขณะในวันเดียวกันนี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานถึงอดีตพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้ออกจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว โดยมีอดีตพนักงาน ธปท. ที่ลงนามจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว มีจำนวน 416 คน ในจำนวนนี้เป็นอดีตผู้บริหาร ธปท. ระดับรองผู้ว่าการ 4 คน และอดีตผู้บริหาร ธปท. ระดับผู้ช่วยผู้ว่าการ มีจำนวน 12 คน
ก่อนหน้านี้ กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ 227 คน ในจำนวนนี้เป็นอดีตผู้ว่าการ ธปท. 4 คนได้ร่วมกันออกแถลงการณ์คัดค้านการครอบงำธนาคารแห่งประเทศไทยโดยกลุ่มการเมือง เมื่อรวมกับอดีตพนักงาน ธปท. 416 คน ที่ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกฯ ทำให้ล่าสุดมีผู้ที่คัดค้านการที่ฝ่ายการเมืองจะเข้าแทรกแซงหรือครอบงำ ธปท. ผ่านการแต่งตั้งประธานบอร์ด ธปท. รวมทั้งสิ้น 643 คน
ต่อมากองทัพธรรม ได้ออกประกาศขอเชิญพี่น้องประชาชนร่วมลงชื่อสนับสนุน นักวิชาการ และกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ออกแถลงการณ์ห่วงใยธนาคารแห่งประเทศไทย ถูกแทรกแซงจากกลุ่มการเมือง เพื่อผลประโยชน์ระยะสั้น ทำลายเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว https://forms.gle/ZMk7a4i7Qx2zMFuAA
ล่าสุดวันนี้ 02 พฤศจิกายน 2567 มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่มีภาพ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กำลังยืนพูดคุยกับกลุ่มมวลชน ก่อนที่จะเดินหนีอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้โพสต์คลิป พร้อมข้อความระบุว่า ย้อนอดีต กิตติรัตน์ 1 ใน 3 แคนดิเดต ชิงเก้าอี้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ยุครัฐบาลแพทองธาร ก่อนเคาะจริง 4 พ.ย.นี้
นอกจากคลิปวิ่งหนีชาวนาและถูกขว้างปาสิ่งของใส่ ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่เป็นคลิปไวรัลแล้ว กิตติรัตน์ ยังเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับ’การสั่งผ่านสื่อ และ จดหมาย’จากเหตุความไม่พอใจ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนที่ 22 (ดำรงตำแหน่งขณะนั้น) ซึ่งไม่ยอมทำตามความต้องการของรัฐบาล
อย่างไรก็ตามทีมข่าว THE critics ร่วมตรวจสอบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวก็พบว่าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 โดยกลุ่มเกษตรกรชาวนากว่า 20 จังหวัด ราว 4,000 คน ที่เคลื่อนมาชุมนุมบริเวณหน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เรียกร้องเรื่องเงินจำนำข้าว
กลุ่มชาวนาได้ขับรถอีแต๋น พยายามดันรั้วลวดหนามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางไว้ ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวาย และมีรายงานชาวนาได้รับบาดเจ็บจากรั้วลวดหนามหลายราย และนาย กิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น ได้ชี้แจงต่อชาวนา ท่ามกลางความไม่พอใจของชาวนา เนื่องจากต้องการพบนายกรัฐมนตรีมากกว่า
ทั้งนี้ นายกิตติรัตน์ ลงมาพบชาวนา แสดงท่าทีอึกอัก และเมื่อพูดจบก็หันหลังให้กลุ่มชาวนา ด้านชาวนาก็โห่ไล่ ขว้างปาขวดน้ำ ผลไม้ รองเท้าใส่ พร้อมตะโกนขับไล่ให้รัฐบาลออกไป อีกทั้งยังไม่ยอมตอบคำถามของชาวนาด้วย
#กิตติรัตน์ #ชาวนา #จำนำข้าว #ธปท. #แบงก์ชาติ #ปธ.บอร์ดธปท. #กองทัพธรรม #ดร.ประสาร #หม่อมอุ๋ย #ผู้ว่าธปท. #ยิ่งลักษณ์ #ม็อบ