จากที่มีรายงานพยานบุคคลสำคัญจะร่วมเป็นพยานให้คดีนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย ที่ถูกร้องให้เอาผิดเข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีพรรคร่วมรัฐบาลที่เดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อพูดคุยกับนายทักษิณ
โดยเรื่องนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสั่งการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้หลายคนรออาจจะมีคลิปบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งนายไพบูลย์ กล่าวว่า ทราบมาว่าเขามีพยานบุคคลทั้ง 2 กรณี ทั้งบ้านจันทร์ส่องหล้าและชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีการเขียนไว้ในคำร้อง หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องก็คงมีการเชิญพยานบุคคลไปไต่สวน ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าคลิปที่ผิดกฎหมาย โดยพยานดังกล่าวเป็นผู้เห็นเหตุการณ์
ล่าสุดวันนี้ 18 ตุลาคม 2567 เพจ สนธิญาณ story ได้โพสต์แบนเนอร์พร้อมข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยมีการนำเสนอในรูปแบบของการถาม-ตอบ ซึ่งนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม หรือ ต้อย ประธานกรรมการสถาบันทิศทางไทย เป็นผู้ถามแหล่งข่าว ที่ใช้คำแทนตัวว่า พี่ สำหรับข้อความที่โพสต์ไว้ระบุว่า เสร็จแน่ทักษิณ สันติ พยานมัด
เมื่อวานโทรศัพท์ไปคุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเป็นคนสำคัญเป็นคนดังแต่ขออนุญาตไม่เปิดเผยว่าเป็นใครนะครับแต่ จะเอาบทสนทนามาเล่าให้แฟนแฟนสนธิญาณ story ได้รับรู้ร่วมกันร่วมกัน !!
สนธิญาณ…. สวัสดีครับพี่
พี่….(แหล่งข่าว) ว่าไงต้อย (ชื่อเล่นนายสนธิญาณ)
สนธิญาญ… พี่สบายดีไหมครับ เห็นถูกโจมตีหนักช่วงนี้
พี่…. สบายดี ไม่เห็นมีอะไร
สนธิญาณ…เห็นทั้งเรื่องตัวพี่และเรื่องพรรคโดนกระหน่ำน่าดูเลย
พี่…. เรื่องไม่จริงกลัวอะไร
สนธิญาณ… ขออนุญาตถามสักเรื่องได้ไหมครับ
พี่… มีอะไรว่ามาสิ
ทั้งนี้เมื่อนายสนธิญาณ ถามว่า คุณสันติ (นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) จะไปเป็นพยานหรือไม่ ทำให้แหล่งข่าว ถามกลับว่า “พยานเรื่องอะไร?” ก่อนที่นายสนธิญาณ จะระบุเรื่องบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่นายธีรยุทธ ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้แหล่งข่าวตอบว่า “ไปอยู่แล้วไปแน่นอน”
อย่างไรก็ตามนายสนธิญาณ ยังถามต่อไปอีกว่า “ตกลงประชุมกับ อุ๊งอิ๊ง หรือ นายทักษิณ?” นี่เองที่ทำให้แหล่งข่าวตอบออกมาอย่างชัดเจนว่า “เห็นบอกว่าทักษิณนั่งอยู่โต๊ะประชุมเองเลย”
หลังได้ฟังคำตอบดังกล่าวทำให้นายสนธิญาณ ถึงกับอุทาน “โห ทุกพรรคที่ไปร่วมประชุมก็ถูกทักษิณครอบงำหมดสิ” ก่อนที่แหล่งข่าวก็ระบุว่า “ก็เค้ามาเปลี่ยนตัวคนในตอนเช้า ตอนค่ำคุยกันจะเอาชัยเกษม(นิติสิริ) จึงมาทำให้พรรคเพื่อไทยมีมติเปลี่ยนมาเป็นอุ๊งอิ๊งไง! จะได้เห็นว่าไม่ได้ทำตามทักษิณ”
นอกจากนี้ในช่วงท้ายของการสนทนา นายสนธิญาณ ยังถามถึงสถานการณ์ช่วงนั้นด้วยว่า “แล้วตอนนั้นพี่รู้อยู่แล้วว่าเค้าจะไม่เอาพี่ – พี่ให้คุณสันติกับคุณธรรมนัส ไปประชุมทำไม?”
“ผมไม่ได้สั่งให้ไป ผมห้ามเสียด้วยซ้ำแต่ธรรมมนัสเป็นคนชวนสันติไป” แหล่งข่าว ระบุช่วงท้าย
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทีมข่าวTHE critics ขอนำย้อนไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรมนูญ ส่งผลให้นายกเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นตำแหน่งตามไปด้วยทั้งคณะ
ต่อมามีรายงานข่าวแจ้งในช่วงเย็นวันเดียวกันหลังทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเข้าหารือด่วนที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
#บิ๊กบ้านป่าฯ #พยานคดี #บ้านจันทร์ส่องหล้า #ทักษิณ #ยุบเพื่อไทย #ธีรยุทธ #พลังประชารัฐ #พรรคร่วมรบ. #ศาลรธน. #สนธิญาณ