จากที่มีรายงาน กิตติรัตน์ จะเป็นเต็งประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ ซึ่งกรรมการสรรหานัดเคาะชื่อในวันที่ 8 ตุลานี้ ท่ามกลางการจับว่าจะเป็นศึกรอบใหม่ระหว่างรัฐบาลกับแบงก์ชาติ ซึ่งวันนี้ลองทำความรู้จัดตัวตนของนายกิตติรัตน์ว่าเป็นมาอย่างไร??
ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้อยู่ระหว่างการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ธปท.คนใหม่แทนที่นายปรเมธี วิมลศิริ ที่หมดวาระลง โดยในการคัดเลือกกระทรวงการคลังได้มีการตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้นมา 1 ชุดเพื่อคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งกระทรวงการคลังสามารถเสนอชื่อประธานได้ 1 คน ส่วน ธปท.เสนอชื่อได้ 2 คน
ก่อนหน้านี้รายงานข่าวระบุถึงบุคคลที่เป็นตัวเต็งที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่จากฝั่งกระทรวงการคลังได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และอดีตประธานที่ปรึกษาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
วันนี้ทีมข่าว THE cirtics จะพาไปทำความรู้จักตัวเต็งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ โดยเริ่มที่ 13 มิถุนายน 2556 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังในขณะนั้นต้องการให้ ธปท.ใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับการดูแลสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการดูแลไม่ให้ราคาน้ำมันสูง
8 มกราคม 2567 นายกิตติรัตน์ ในฐานะประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าได้โพสต์ข้อความตำหนิการขึ้นดอกเบี้ยของธปท. ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยพูดมาตลอดตั้งแต่ก่อนตั้งรัฐบาลในเดือนส.ค. 66 และไม่เคยหยุดพูดเรื่องดอกเบี้ยสูง ทุกครั้งที่ดอกเบี้ยสูงขึ้นเป็นโอกาสในการทำรายได้สูงขึ้นของสถาบันการเงิน เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ขยับเร็วกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
และเมื่อย้อนไปอีกครั้งช่วงที่นายกิตติรัตน์ เป็นรองนายกฯสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทางทีมข่าว THE cirtics ก็พบว่าเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2555 ซึ่งการกล่าวอ้างของนายกิตติรัตน์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจว่า นักการเมืองเป็นตำแหน่งที่สามารถโกหกประชาชนได้
ทำให้ นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ไม่มีตำรา หรือ กฎหมายใด อนุญาตให้นักการเมืองโกหกประชาชนได้จึงเป็นห่วงว่า นายกิตติรัตน์ กำลังทำลายความหวังของประชาชนที่มีต่อนักการเมือง โดยเฉพาะการดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีผลกระทบต่อประชาชนและประเทศเป็นวงกว้าง ยิ่งต้องระมัดระวังการพูดต่อสาธารณะชน
“คณะกรรมการผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า นายกิตติรัตน์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายจริยธรรมนักการเมืองจริงจะนำเสนอรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร และนายกรัฐมนตรีรับทราบ แต่หากการพูดโกหกของนายกิตติรัตน์ ส่งผลกระทบและเข้าข่ายความผิดด้านจริยธรรมร้ายแรงจะเสนอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.พิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง และ ขอให้นักการเมืองควรพูดความจริงกับประชาชนเสมอ” นายรักษเกชา กล่าว
04 ตุลาคม 2556 หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการโกหกสีขาวของ นายกิตติรัตน์ ในเรื่องของการไม่ให้ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นจริงต่อสาธารณชน ทำให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อภาคธุรกิจเอกชน
นายรักษเกชา เปิดเผยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า นายกิตติรัตน์ โกหกสีขาว (White Lie) ให้ข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่ถูกต้องแล้วว่า ไม่ผิดประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมได้ทำสำเนาส่งให้ผู้ร้องและนายกฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชาแล้ว
สืบเนื่องมาจาก นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้ยื่นให้ตรวจสอบกรณี นายกิตติรัตน์ ปราศรัยในงานสัมมนา 1 ปี ยิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย เมื่อ 23 สิงหาคม 2555 ว่า เป้าการส่งออกในปี 2555 เติบโตไม่ถึง 15% อย่างที่คาดการณ์ ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะพูดในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและรมว.คลัง จึงได้รับอนุญาตให้พูดในเรื่องไม่จริงในบางเรื่องได้ ซึ่งขัดต่อระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยประมวลจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2551 หรือไม่
“เรื่องนี้ผู้ตรวจการฯ มีคำวินิจฉัยแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมได้ทำสำเนาส่งให้ผู้ร้องและนายกฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชาแล้ว ว่า การกระทำดังกล่าวของกิตติรัตน์ ถือว่าไม่เข้าข่ายขัดต่อระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2551 เนื่องจากเป็นการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจตามปกติ
แต่การที่กิตติรัตน์ออกมาระบุในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและ รมว.คลัง จึงได้รับอนุญาตให้พูดไม่จริงในบ้างเรื่องก็ได้นั้น ทำให้มีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของตัวกิตติรัตน์ คณะรัฐมนตรี และประเทศ” นายรักษเกชา ระบุ
อย่างไรก็ตามสำหรับ คณะกรรมการสรรหาประธานบอร์ด และกรรมการในบอร์ดแบงก์ชาติชุดใหม่ มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานพร้อมกรรมการอีก 6 คน
สำหรับการแต่งตั้งประธานฯ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการ ธปท. จะส่งผลไปถึงการคัดเลือกผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ด้วย เนื่องจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการฯคนปัจจุบัน จะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 ก.ย. 2568
ท่ามกลางรายงานรัฐบาลพยายามผลักดันเสนอคนที่ดำเนินนโยบายการเงินสอดคล้องกับทิศทางการทำงานของรัฐบาลหลังจากช่วงที่ผ่านมามีความเห็นไม่ตรงกันในหลายๆเรื่อง ซึ่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่จะมีส่วนสำคัญในการกำหนดรายชื่อบุคคลที่จะนั่งเก้าอี้ผู้ว่าการฯคนใหม่ จากอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ให้ในการควบคุมดูแลแบงก์ชาติ เช่นนี้แล้วจึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นการทำศึกรอบใหม่อีกครั้งระหว่างรัฐบาลกับแบงก์ชาติ
#ผู้ว่าธปท. #หลวงมหาตาบัว #ปธ.บอดร์ดธปท. #กิตติรัตน์ #สอบจริยธรรม #ตัวเลขส่งออก #โกหกสีขาว