จากรายงานที่ดูเหมือนว่าพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ไม่ว่าเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญปมจริยธรรม ไม่ว่ากรณี สายส.ว.สีน้ำเงิน โหวตสกัดหลักการสำคัญกม.ประชามติของรัฐบาลเพื่อไทย เป็นสองเรื่องที่วันนี้ชัดแจ้งแดงแจ๋แล้ว!?!
ล่าสุดเมื่อวันที่ 03 ตุลาคม 2567 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คงจะนัดกันเร็วๆนี้ คาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ตนก็จะสรุปรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตั้งแต่เรื่องการทำประชามติ ซึ่งโยงกับรัฐธรรมนูญก็จะคุยไปพร้อมๆกันว่าจะเดินกันอย่างไร
ปรากฏว่ายังไม่ทันข้ามวัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการนัดพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ยังไม่มีการนัดหมาย ยังไม่มีกำหนดว่าจะนัดพูดคุยกันเมื่อใด เพราะเรามีเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขให้ประชาชน ซึ่งสำคัญกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
หากยังจำกันได้ทีมข่าว THE ctitics ช่วง นายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะที่กำลังเฟ้นหาตัวผู้นำรัฐบาลคนใหม่ ชื่อของนายอนุทิน หลุดออกมาโดดเด่นอย่างยิ่ง ว่าจะก้าวเข้ามาเป็นนายกคนที่ 31 จนกระทั่งสถานการณ์พลิกกลับมาเป็นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งพลันที่ชื่อของนายอนุทิน ถูกปล่อยออกมาได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างยิ่ง
วันนี้ 4 ตุลาคม 2567 ที่สนามบอลช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดงานทำบุญวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 66 ปี โดยมีคนใกล้ชิด คนดังจากหลากหลายวงการ รวมถึงนักการเมืองเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี เป็นจำนวนมาก
อาทิ แกนนำ และ สส.พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ซึ่งช่วงหนึ่งที่มีการได้มีพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญเพื่อขอพรจากครูปะกำ โดยหลังจากที่ครูปะกำ ได้ผูกข้อมือให้นายเนวินแล้วเสร็จ นายเนวินได้หันมาบอกครูปะกำให้ผูกข้อมือให้นายอนุทินด้วย ก่อนที่จะกล่าวด้วยเสียงดังว่า ผูกให้เป็นนายกฯ ผูกให้ยิ่งใหญ่ ผูกให้แข็งแรง
จากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าว ได้สอบถาม นายอนุทินว่า นายเนวินได้อวยพรให้เป็นนายกฯ จะขานรับหรือไม่ นายอนุทินย้อนกลับทีเล่นทีจริง ล้อต่อว่า นายกฯเป็นตลอดอยู่แล้วไม่มีใครแย่ง นายกฯสมาคมเกลียมัว แห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญ ทั้งการแก้ประเด็นจริยธรรมและพรบ.ประชามติ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำต้องสะดุด และตั้งท่าว่าจะยืดยาวออกไป ซึ่งว่ากันว่า งานนี้สร้างความเจ็บซ้ำให้กับคนพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายใหญ่ที่มีเสียงหลุดลอดออกมาว่า ถึงกับกระอักกันเลยทีเดียว
สำหรับเรื่องราวที่เกิดเคยขึ้นในอดีตเป็นที่รับรู้กันว่าระหว่างคนใหญ่บุรีรัมย์กับนายใหญ่เพื่อไทยที่สร้างเจ็บซ้ำน้ำใจมาหลายสิบปี นั่นก็คือ บาดแผลทางการเมืองที่เคยฝากเอาไว้ ยังเจ็บไม่หายจนถึงปัจจุบัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่เคยสนับสนุนรัฐบาลพลังประชาชน รวบรวม ส.ส.พลิกขั้วไปสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในขณะนั้น ขึ้นเป็นนายกฯ
ขณะเดียวกันมีข่าวว่า คนแดนไกล ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ต่างแดน พยายามติดต่อเพื่อสอบถาม ปรากฏได้รับคำตอบจากคนใหญ่บุรีรัมย์ว่า มันจบแล้วครับนาย
นี่ยังไม่นับสถานการณ์แย่งชิงฐานเสียงที่ ภูมิใจไทยและเพื่อไทย มีเป้าหมายใหญ่เดียวกันที่ภาคอีสาน ที่นี่จึงเป็นฐานเสียงทับซ้อนที่สองฝ่ายต่างแย่งชิงกันทุกครั้งเมื่อถึงฤดูเลือกตั้งใหญ่
กระนั้นเองที่ภาพระหว่างนายใหญ่กับคนใหญ่บุรีรัมย์แม้ถึงวันนี้จะร่วมหอลงโรงกันในพรรคร่วมรัฐบาล แต่มาถึงวันนี้ก็เริ่มจะเห็นปรากฏการณ์บางอย่างให้เห็นกันแล้ว ซึ่งหลายคนก็เชื่อว่ารัฐบาลอุ๊งอิ๊งอายุสั้นกว่ารัฐบาลนายเศรษฐา เช่นนี้จึงอาจมองไปได้ว่า ในอนาคตอันใกล้คงมีชื่อ อนุทิน ได้ลุ้นตำแหน่งนายกอีกครั้ง ซึ่งความเป็นไปได้ก็ย่อมขึ้นอยู่กับฝีมือครูใหญ่บุรัมย์ด้วยไม่มากก็น้อย?!?
#เนวิน #อนุทิน #นายกฯ #ภูมิใจไทย #บ้านใหญ่บุรีรัมย์ #บ้านจันทร์ส่องหล้า #ทักษิณ #ฝ่ายอนุรักษ์ #เศรษฐา #อุ๊งอิ๊ง